รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ แผนการเปลี่ยนผ่าน “โควิด” สู่โรคประจำถิ่น หากอนาคตดำเนินการถึงเป้าหมาย อาจพิจารณาผ่อนคลายมากขึ้น เช่น ไม่ต้องสวมหน้ากากในสวนสาธารณะ ส่วน UCEP Plus ที่เพิ่งเริ่มดำเนินการยังไม่พบปัญหา แนะลดละเลิกดื่มสุราก่อนสงกรานต์ เพื่อลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด 19 แล้วนำไปแพร่ผู้สูงอายุในครอบครัว
วันที่ 17 มีนาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การเสนอข่าวยกเลิกสวมหน้ากากในสวนสาธารณะเป็นการสื่อสารคลาดเคลื่อน ซึ่งผู้ที่เผยแพร่ข่าวได้มีการแก้ไขแล้ว ทั้งนี้ การทำให้โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic) ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ไว้ เช่น อัตราการเสียชีวิต ความครอบคลุมของการฉีดวัคซีน ความพร้อมของสถานพยาบาล ความพร้อมของยา/เวชภัณฑ์ ถ้าเป็นไปตามที่กำหนดก็อาจจะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการได้บ้าง เช่น หากได้รับวัคซีนครบถ้วน มีความปลอดภัย ก็ไม่ต้องสวมหน้ากากในสวนสาธารณะได้
สำหรับช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง อยากให้ทุกคนได้กลับไปเยี่ยมบ้านอย่างปลอดภัยจากโควิด 19 จึงแนะนำให้ลูกหลานดูแลตนเองให้ปราศจากเชื้อ (Clean Up) ก่อนกลับบ้าน 7 วันโดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้ติดเชื้อ รวมถึงลดละเลิกดื่มสุรา เพราะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิดจากภาชนะ แก้วน้ำต่างๆ ที่ใช้ร่วมกัน ช่วยกันทำให้เป็นค่านิยมใหม่ สงกรานต์ทุกคนกลับบ้านไปมีความสุข ไม่นำเชื้อไปแพร่ให้ผู้สูงอายุในครอบครัวจนเกิดความสูญเสีย
ส่วนการปรับแนวทางการดูแลรักษาโรคโควิด 19 มาเป็น UCEP Plus ที่เริ่มเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ที่จริงไม่ได้กระทบกับการรักษา เนื่องจากไม่ว่าจะเจ็บป่วยโรคใด หากมีอาการฉุกเฉินก็สามารถใช้สิทธิ UCEP รักษาทุกคนอยู่แล้ว ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการฉุกเฉิน เช่น ผู้ติดเชื้อโควิดกลุ่มอาการสีเขียว ก็เข้ารับการรักษาแบบ Home Isolation หรือรักษาแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” ได้
********************************************** 17 มีนาคม 2565