กรมควบคุมโรค หารือสิงคโปร์สำหรับมาตรการความปลอดภัยผู้โดยสารเรือสำราญ แวะเที่ยวภูเก็ต

กรมควบคุมโรค หารือโครงการนำร่องท่องเที่ยวเรือสำราญเส้นทางจากสิงคโปร์แวะพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยกำหนดคุณสมบัติผู้โดยสาร 2 ข้อ ตรวจ ATK ก่อนเดินทาง 24 ชั่วโมง และต้องได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว จำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ลงมาจากเรือเป็นกลุ่มเล็ก ยังรอข้อเสนอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอ ศบค. เพื่อพิจารณาต่อไป

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมผู้เกี่ยวข้อง หารือกับนายเควิน ฉ็อก เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย และนายอเล็กซานเดอร์ ลิม เลขานุการเอก (แผนกการเมือง) โดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และผู้แทนจากกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศและกักกันโรค สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ และสถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษา ร่วมประชุมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการ Vaccinated Travel Lane (ทางทะเล)

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า โครงการนำร่องเรือสำราญจากสิงคโปร์แวะพักผ่อนท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศสิงคโปร์ให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตทางเรือ ในช่วงครึ่งหลังของปี 65 เป็นเวลาสั้นๆ 6-8 ชั่วโมง ผู้โดยสารต้องจองล่วงหน้า และมีคุณสมบัติ ดังนี้

1.ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ครบโดส

2.ผลตรวจการติดเชื้อโควิด 19 ด้วยชุดตรวจ ATK มีผลเป็นลบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนเดินทาง เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางถึงภูเก็ตแล้วไม่ต้องตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซ้ำอีก และการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ในภูเก็ตเป็นไปตามตารางเดินทางที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วเท่านั้น โครงการนำร่องดังกล่าว จะดำเนินการภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่ การจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ลงมาจากเรือเป็นกลุ่มเล็ก นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือ โดยไกด์นำเที่ยวต้องฉีดวัคซีนครบโดสและตรวจการติดเชื้อโควิด 19 เป็นประจำ ทั้งนี้ ทางสิงคโปร์จะเสนอรายละเอียดของโครงการนี้ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำข้อเสนอสุดท้ายเข้าพิจารณาในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ต่อไป

“ประเทศไทยและอีกหลายประเทศเตรียมพร้อมเปลี่ยนผ่านของโรคโควิด 19 จากโรคระบาดใหญ่เป็นโรคประจำถิ่นในระยะต่อไป (Post pandemic) โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้แลกเปลี่ยนวัคซีนจำนวน 122,400 โดส และชุดตรวจ ATK ซึ่งไทยได้เคยมอบชุดตรวจชนิด RT-PCR ให้กับสิงคโปร์เช่นกัน ความร่วมมือของทั้งสองประเทศจะสร้างความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี” นายแพทย์โอภาส กล่าว

************************************
ข้อมูลจาก : สำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค
วันที่ 16 มีนาคม 2565