“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 126,158,379 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,998 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 126,158,379 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,998 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 1,000.07 ล้านโดส

➡️(14 มีนาคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,998 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 21.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 557 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 217 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 1,000.07 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (95% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 359.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 126,158,379 โดส

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,998 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 126,158,379 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 54,415,190 โดส (82.2% ของประชากร)

-เข็มสอง 49,990,678 โดส (75.5% ของประชากร)

-เข็มสาม 21,756,511 โดส (32.9% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 14 มี.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 126,158,379 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 71,155 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 177,471 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

– เข็มที่ 1 22,909,476 โดส

– เข็มที่ 2 3,599,855 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca

– เข็มที่ 1 13,931,803 โดส

– เข็มที่ 2 28,500,256 โดส

– เข็มที่ 3 5,185,592 โดส

วัคซีน Sinopharm

– เข็มที่ 1 7,553,532 โดส

– เข็มที่ 2 7,245,722 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer

– เข็มที่ 1 9,258,830 โดส

– เข็มที่ 2 9,773,322 โดส

– เข็มที่ 3 13,163,834 โดส

วัคซีน Moderna

– เข็มที่ 1 761,549 โดส

– เข็มที่ 2 871,523 โดส

– เข็มที่ 3 3,403,085 โดส

4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 1,000,074,087 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 359,589,226 โดส (70.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 200,179,247 โดส (81.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm

3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 138,008,339 โดส (56.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca

4. ไทย จำนวน 126,158,379 โดส (82.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 68,159,756 โดส (83.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac

6. พม่า จำนวน 46,247,597 โดส (45.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 37,359,132 โดส (87.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac

8. สิงคโปร์ จำนวน 13,651,279 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac

9. ลาว จำนวน 9,679,522 โดส (71.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca

10. บรูไน จำนวน 1,041,610 โดส (95%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.72%

2. ยุโรป 10.05%

3. อเมริกาเหนือ 8.55%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.19%

5. แอฟริกา 3.86%

6. โอเชียเนีย 0.62%

6 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,189.43 ล้านโดส (225.5% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,801.04 ล้านโดส (130.6%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 556.82 ล้านโดส (166.1%)

4. บราซิล จำนวน 402.36 ล้านโดส (190%)

5. อินโดนีเซีย จำนวน 359.59 ล้านโดส (130.3%)

7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (310%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (262%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)

3. ชิลี (254.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. มัลดีฟส์ (241.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)

5. กาตาร์ (241.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)

6. บรูไน (236.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

7. ฝรั่งเศส (235%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna, J&J และ AstraZeneca/Oxford)

8. เกาหลีใต้ (234.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)

9. สิงคโปร์ (231.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

10. บาห์เรน (231.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)