จังหวัดสุราษฎร์ธานี จัดพิธีมอบแบบลายผ้าขิดพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา”

วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565 ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญามีต่อปวงพสกนิกร ตลอดระยะเวลาที่ใต้ฝ่าพระบาท อำนวยประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ ทรงมุ่งมั่นที่จะสืบสานพระราชปณิธาน ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาหัตถกรรมไทย ให้ดำรงอยู่ยั่งยืน ด้วยพระอัจฉริยภาพ พระองค์ทรงต่อยอดผสมผสานมุมมองด้านแฟชั่นที่ร่วมสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งการสืบสานอัตลักษณ์ เรื่องราวประจำภูมิภาค เป็นคุณูปการอย่างยิ่งแก่ปวงชนคนไทย ทรงพระราชทานแบบลายผ้า ชื่อลาย “ผ้ามัดหมี่ลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” แก่พสกนิกรชาวไทย อันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดถึงพระปรีชาสามารถในด้านการออกแบบ เกิดความเชื่อมั่นว่าความงดงามของผ้าไทยจะคงอยู่คู่กับสังคมไทย และได้พระราชทานพระอนุญาตให้ กรมการพัฒนาชุมชน และสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จัดการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” และได้เริ่มต้นกิจกรรมการประกวด

อีกทั้งทรงพระราชทานลายผ้าบาติก 3 ลาย “ปาเต๊ะร่วมใจเทิดไท้เจ้าหญิง” “ท้องทะเลไทย” และ “ป่าแดนใต้” ที่พระองค์ได้แรงบันดาลพระทัยจากการเสด็จไปทอดพระเนตรงานศิลปหัตถกรรม จากภูมิปัญญาพื้นถิ่นในภาคใต้หลายครั้ง ทรงพบเห็นวิถีชีวิตและธรรมชาติของภาคใต้ ที่มีเอกลักษณ์ แนวพระดำริทั้งหมดถูกถ่ายทอดลงบนผ้าลายบาติกพระราชทานนี้ เพื่อพระราชทานให้กับช่างฝีมือบาติก เป็นของขวัญตอบแทนมิตรภาพ และความจริงใจ ที่ประชาชนชาวภาคใต้มอบให้กับพระองค์ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มคุณค่า และมูลค่าของผลิตภัณฑ์ ด้วย

ถือได้ว่าเป็นเรื่องราวและความหมายชวนประทับใจ เป็นการยกระดับผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย สามารถก้าวสู่ระดับสากล เพื่อวิถีชุมชนที่ยั่งยืนความงดงามของอัตลักษณ์ไทย ส่งผ่านไปสู่พี่น้องประชาชน สร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก เป็นพลังที่จะสืบสานความเป็นไทยให้คงอยู่สืบไป

และเมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จพระราชดำเนิน ณ อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ทอดพระเนตรกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ผ้าไทย และงานหัตถกรรมชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดธาตุประสิทธิ์ และหอประชุมโรงเรียนนาหว้าพิทยาคม ตำบลนาหว้า อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ของโครงการศิลปาชีพ และในโอกาสเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 90 พรรษา เพื่อสร้างการรับรู้ประวัติศาสตร์ สู่คนรุ่นหลัง และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป โดยมีสมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม และราษฎรเฝ้าฯ รับเสด็จ

ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระราชทานแบบลายผ้า “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ผ่านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นของขวัญให้กับช่างทอผ้าทุกกลุ่มทุกเทคนิค นำไปทอผ้า ผลิตผ้าตามอัตลักษณ์ภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่นทั่วประเทศทรงออกแบบผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” โดยได้รับแรงบันดาลพระทัยจาก “ผ้าขิดลายสมเด็จ” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทานแก่ราษฎร อันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาผ้าไทยให้มีความร่วมสมัย โดยแต่ละลวดลายมีความหมายที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความตั้งพระทัยมั่นของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จย่าของพระองค์ ในการฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดิน

กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำแนวพระดำริของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการสืบสาน รักษาและต่อยอด พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ฟื้นคืนภูมิปัญญาผ้าไทยให้ดำรงคงอยู่คู่แผ่นดิน โดยกำหนดเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ปี 2565 ในการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ภายใต้โครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อน ให้เห็นถึงบริบททางสังคมและวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากเพื่อให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ได้มีอาชีพ มีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้ขับเคลื่อนแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” และ “ผ้าลายขอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ซึ่งช่วยชุบชีวิตของผู้ประกอบการทอผ้าทั่วประเทศ อย่างเป็นรูปธรรม

จากนั้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2565 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ ประธานสภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ได้จัดพิธีมอบแบบลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเต็ล อะลักชัวรี โฮเต็ล แบงค็อก เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พร้อมมอบแนวทางขับเคลื่อน “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัด ซึ่งต้องเป็น “ทูตการสวมใส่ผ้าไทย” และเป็นผู้นำในการสวมใส่ผ้าไทย รวมถึงเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันใส่ผ้าไทยในทุกโอกาส และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการรณรงค์การสวมใส่ผ้าไทย เพื่อร่วมกันสร้างความภาคภูมิใจ และสร้างประวัติศาสตร์ให้ลูกหลานได้เรียนรู้และใส่ผ้าไทยให้สนุกในทุกวัน

ในการนี้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี รับสนองพระราชดำริได้จัดพิธีมอบแบบลายผ้าขิดพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นางอุรสา จินโต ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ภริยา) และ หัวหน้าส่วนราชการ / นายอำเภอและภริยา / พัฒนาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี / ผู้อำนวยการกลุ่มงาน เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุราษฎร์ธานี และผู้ประกอบการผ้าไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบแบบลายผ้าขิดพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ณ ห้องประชุมเมืองคนดี ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสุราษฎร์ธานี

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ภริยา) เป็นตัวแทนรับมอบให้แก่ นายอำเภอและภริยา ทั้ง 19 อำเภอจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมทั้งผู้ประกอบการผ้าไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี จำนวน 27 กลุ่ม เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาลวดลายผ้าไทยให้เกิดความหลากหลายและร่วมสมัย ก้าวสู่สากล ผู้เข้าร่วมพิธีต่างเป็นเกียรติและภาคภูมิใจ ที่ได้ร่วมพิธีมอบแบบลายผ้าขิดพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” นอกจากนั้นภายในบริเวณพิธีฯ ยังได้มีการแสดงนิทรรศการลายผ้าและจำหน่ายผ้าไทย ภาพถ่ายประชาสัมพันธ์ในโครงการผ้าไทยใส่สนุกให้ผู้ร่วมงานได้รับชม

*** ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้มาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่สาธารณะสุขได้กำหนดอย่างเคร่งครัด