รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางสาวชุติมา บุณยประภัศร) ให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฮังการีประจำประเทศไทย (นายซิลเวสเตอร์ บุช) เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ หารือแนวทางขยายความสัมพันธ์ทางการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยฮังการีแสดงความสนใจลงทุนสาขาสุขภาพ การแพทย์ อาหาร และการบริหารจัดการน้ำ สบโอกาสชวนลงทุนใน EEC ด้วย
นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ รักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การหารือครั้งนี้ ไทยและฮังการีได้ร่วมหาแนวทางการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-ฮังการี รวมถึงแลกเปลี่ยนมุมมองด้านการค้า การลงทุน และความร่วมมือในหลายมิติ นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนฮังการีมาลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) และใช้ประโยชน์จากไทยในการเป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาบสมุทรอินโดจีน และประเทศกลุ่ม CLMV โดยฮังการีได้แสดงความสนใจลงทุนในสาขาต่างๆ อาทิ สุขภาพและการแพทย์ ไอที อาหาร และการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งฮังการีมีความเชี่ยวชาญ และในโอกาสที่พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางเยือนประเทศฮังการีอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศเห็นพ้องว่าเป็นสาขาที่สามารถเพิ่มความร่วมมือระหว่างกันได้มากขึ้นในอนาคต
นางสาวชุติมา เสริมว่า ฮังการีเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศ Visegrad 4 (V4) ประกอบด้วยประเทศยุโรปกลาง ได้แก่ ฮังการี สาธารณรัฐเช็ก โปแลนด์ และสโลวาเกีย ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจยุโรป มีระบบการเมืองและเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง เป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่สำคัญให้กับบริษัทยานยนต์รายใหญ่ของโลก รวมทั้งมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ ในปี 2561 ฮังการีมีอัตราการเติบโตของ GDP ร้อยละ 4.5 ถูกจัดอันดับอยู่ในอันดับที่ 7 ของประเทศที่น่าลุงทุนมากที่สุดในโลก โดยมีอัตราเงินเฟ้อร้อยละ 2.8 อัตราการว่างงานต่ำ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาร้อยละ 15 และอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 9 จึงเชิญชวนภาคธุรกิจไทยพิจารณาลงทุนในฮังการีเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ฮังการีมีลักษณะคล้ายกับไทยเรื่องที่ตั้งของประเทศที่อยู่ใจกลางภูมิภาค และเป็นประตูสู่ยุโรปตะวันออกและคาบสมุทรบอลข่าน ไทยสามารถใช้ฮังการีเป็นฐานกระจายสินค้าไทยไปยังภูมิภาคยุโรปตะวันออก สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ที่สนับสนุนผู้ประกอบการไทยไปแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนในตลาดใหม่ที่มีศักยภาพและน่าสนใจ ซึ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีโครงการส่งเสริมนำคณะนักธุรกิจไทยแสวงหาโอกาสดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก (ฮังการีและโปแลนด์) ระหว่างวันที่ 9-16 มิถุนายน 2562 ณ กรุงบูดาเปสต์ เมืองเอสซ์เตอร์กอม และเมืองนากีตาร์คซ่า ประเทศฮังการี และกรุงวอร์ซอว์ ประเทศโปแลนด์ นอกจากนี้ ฮังการีมีนโยบายเศรษฐกิจเน้นการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเช่นเดียวกันกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งไทยและฮังการีสามารถเสริมสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ในเรื่องนี้ได้
ในปี 2561 การค้าไทย-ฮังการีมีมูลค่า 635.68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 9.92 การส่งออกมีมูลค่า 425.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ วงจรพิมพ์ หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ การนำเข้ามีมูลค่า 189.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ในปี 2559 ไทยลงทุนในฮังการีมูลค่า 10.3 ล้านยูโร หรือ 11.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในสาขาอาหาร สำหรับการลงทุนของฮังการีในไทยมีไม่มากนัก โดยมีการลงทุนจากฮังการีที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปี 2560 จำนวน 1 โครงการ มูลค่าการลงทุนประมาณ 177 ล้านบาท หรือ 4.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขยายการลงทุนของบริษัทผลิตสายไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์
——————————————
กระทรวงพาณิชย์
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ