กรมควบคุมโรค เผยโรคและภัยสุขภาพในช่วงฤดูร้อน แนะประชาชนดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัว

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศเตือนประชาชนในการป้องกันโรคและภัยสุขภาพในช่วงฤดูร้อน ประกอบด้วย 5 โรค และ 3 ภัยสุขภาพ ที่ประชาชนควรระมัดระวังการเจ็บป่วย พร้อมแนะดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัวอย่างเคร่งครัด

วันที่8 มีนาคม 2565 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ ฤดูร้อนแล้ว ซึ่งประชาชนอาจเจ็บป่วยจากอากาศร้อนได้ กรมควบคุมโรค จึงออกประกาศกรมควบคุมโรค เรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูร้อนของประเทศไทย ลงวันที่ 1 มีนาคม 2565 เพื่อให้ประชาชนดูแลสุขภาพอนามัยของตนเองได้อย่างถูกต้อง โดยโรคและภัยสุขภาพที่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในฤดูร้อน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ และกลุ่มที่ 2 ภัยสุขภาพ

กลุ่มที่ 1 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ แบ่งเป็น 6 โรค ได้แก่

1) โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรค พบได้ในทุกกลุ่มวัย ผู้ป่วยจะถ่ายเหลว อาเจียน ส่วนใหญ่มักหายได้เอง

2) ไข้ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย เกิดจากการได้รับเชื้อแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมากับอุจจาระหรือปัสสาวะของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงลอยมากกว่า 1 สัปดาห์ ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องอืดหรือท้องผูก หรือมีผื่นขึ้นตามลำตัว

3) โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนสารพิษหรือสารเคมี มักพบในพืชและสัตว์ เช่น เห็ด และอาหารทะเลต่างๆ อาการป่วยจะขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของสารพิษที่ได้รับ ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยจะหายได้เองภายใน 24-48 ชั่วโมง ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง อาจอาเจียนและท้องเสียจนร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่อย่างรุนแรงได้

4) โรคอหิวาตกโรค ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีเชื้ออหิวาตกโรคปะปนอยู่ ส่วนใหญ่มีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ คลื่นไส้อาเจียน

5) โรคไวรัสตับอักเสบเอ เกิดจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิด เอ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อ การใช้เข็มฉีดยาและการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อ ทำให้เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันของตับ อาการของโรคนี้มีตั้งแต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการอักเสบเล็กน้อยถึงขั้นตับอักเสบรุนแรง โดยทั่วไปจะมีไข้อ่อนๆ เหนื่อยล้า ปวดหัว ท้องผูก ปวดบริเวณท้องขวาบน ปวดตามกล้ามเนื้อและข้อ ปัสสาวะสีเข้ม ตาและตัวเหลือง และสามารถหายขาดได้

สำหรับแนวทางการป้องกันโรคทางเดินอาหารและน้ำ ได้แก่ การยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลางส่วนตัว ล้างมือ” กินร้อน คือ กินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ ช้อนกลางส่วนตัว คือ ช้อนที่มีไว้ตักกับข้าวใส่จานตัวเองและใช้คนเดียว ล้างมือ คือ การล้างมือ ให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอลล์ทุกครั้งก่อนและหลังการประกอบอาหาร รับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้ ต้องดื่มน้ำที่สะอาด น้ำต้มสุก หรือน้ำที่บรรจุในขวดที่มีฝาปิดสนิท

กลุ่มที่ 2 ภัยสุขภาพ ได้แก่

1) การเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากภาวะอากาศร้อน สภาพอากาศที่ร้อนจัดจนร่างกายปรับตัวไม่ทัน การป้องกันคือ งดออกกำลังกายหรือทำงานกลางแดดเป็นเวลานาน ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว สวมเสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี

2) ผลกระทบต่อสุขภาพจากปัญหาหมอกควัน ประชาชนมีความเสี่ยงที่จะป่วยโรคทางเดินหายใจ การป้องกันคือ ปิดประตูหน้าต่างบ้านให้มิดชิด ทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ สวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ เช่น N95 และไม่เผาขยะ ไม่เผาป่า ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ไม่สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ

3) การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจมน้ำ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการชวนกันไปเล่นน้ำตามลำพังที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติ การป้องกันคือ ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และควรจัดการแหล่งน้ำเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เช่น สร้างรั้ว ติดป้ายคำเตือน จัดให้มีอุปกรณ์ช่วยคนตกน้ำไว้บริเวณแหล่งน้ำเสี่ยงสำหรับการช่วยเหลือ และเมื่อพบเห็นคนตกน้ำ ให้รีบโทรแจ้ง 1669 และหาอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้หรือเสื้อชูชีพ โยนให้คนที่ตกน้ำจับพยุงตัว เป็นต้น สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

*************************************************
ข้อมูลจาก : กองระบาดวิทยา/กองโรคติดต่อทั่วไป/สำนักสื่อสารความเสี่ยงฯ กรมควบคุมโรค
วันที่ 8 มีนาคม 2565