อาลัยศิลปินแห่งชาติ “ประเทือง เอมเจริญ” ถึงแก่กรรมด้วยโรคไวรัสโควิด -19

นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า นายประเทือง เอมเจริญ  ศิลปินแห่งชาติ  สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) พุทธศักราช  ๒๕๔๘  ถึงแก่กรรม เมื่อวันจันทร์ที่ ๗  มีนาคม ๒๕๖๕  เวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น.  ณ  โรงพยาบาลราชพิพัฒน์  เลขที่ ๑๘ ถนนพุทธมลฑลสาย ๓ ซอย ๑๐ แขวงบางไผ่  เขตบางแค  กรุงเทพมหานคร  เนื่องจากติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) สิริรวมอายุ ๘๗  ปี  โดยทายาทจัดการทำพิธีฌาปนกิจศพ ณ วัดนิมมานรดี  วันจันทร์ที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๕  สำหรับเวลาที่แน่นอนต้องรอการประสานยืนยันจากทางวัด และการจัดงานดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขกำหนด

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน ๒๐,๐๐๐ บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ตามระเบียบสวัสดิการของศิลปิน

ประวัติศิลปินพอสังเขป

นายประเทือง    เอมเจริญ   ศิลปินแห่งชาติ  สาขาทัศนศิลป์  (จิตรกรรม)  พุทธศักราช  ๒๕๔๘  เกิดเมื่อวันที่  ๙  ตุลาคม  ๒๔๗๘  เป็นศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะอย่างสืบเนื่องยาวนานตลอดระยะเวลากว่า ๔๐ ปี  และได้ศึกษาศิลปะด้วยตนเองอย่างมุ่งมั่น  อดทน  ด้วยการศึกษาค้นคว้างานทางศิลปะอย่างหนัก  ศึกษาปรัชญาชีวิตทั้งศิลปะของอินเดีย  จีน  และศึกษาธรรมชาติโดยเฉพาะดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพลังแห่งแสงสว่าง  จนเกิดมุมมองในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่เป็นรูปแบบของตนเอง  มองโลกในแง่ดี  เชื่อในคุณความดี  สร้างสรรค์ผลงานศิลปะในรูปแบบการผสมผสานระหว่างสิ่งที่รับรู้จากธรรมชาติ  กับสิ่งที่มีอยู่ในตัวเขาทำให้ถ่ายทอดความงามที่มีอยู่ในธรรมออกมาอย่างมีพลังซึ่งได้กลายมาเป็นผลงานชุดจักรวาลอันมีชื่อเสียง

นอกจากนี้  นายประเทือง   เอมเจริญ  ยังได้สร้างศิลปะสถานเอมเจริญ  เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปะและเผยแพร่ผลงานศิลปะของศิลปินต่าง ๆ แก่ประชาชนผู้สนใจได้เข้าชมและศึกษางานด้านศิลปะ  ทั้งยังได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดงานต่าง ๆ ทั่วประเทศ  เป็นศิลปินรับเชิญเขียนภาพเพื่อการกุศลมากมาย  เป็นผู้ถ่ายทอดงานศิลปะให้แก่ผู้สนใจตามโรงเรียน  มหาวิทยาลัยต่าง ๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน  จึงได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ   สาขาทัศนศิลป์  (จิตรกรรม) พุทธศักราช  ๒๕๔๘