วันที่ 25 มีนาคม 2562 ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ อาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน นางถวิล เพิ่มเพียรสิน รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดร.ฉัตรแก้ว ฮาตระวัง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทไทยซัมมิท (ธุรกิจชิ้นส่วนโลหะ) ผศ.ดร.ประยูร สุรินทร์ รองอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และผศ.นิธิ บุรณจันทร์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ได้ร่วมกันลงนามบันทึกความร่วมมือโครงการพัฒนาบุคลากรสำหรับสร้างนวัตกรรมการปฏิบัติงานในสายงานการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อมุ่งสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0
พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) สร้างเครือข่ายในการขับเคลื่อนนโยบายเร่งด่วน 3A ของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะด้านการ ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ (Super Work) เพื่อตอบโจทย์10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) และทั่วประเทศ ที่มีความต้องการแรงงานฝีมือจำนวนมากในสายการผลิต
นางถวิล เพิ่มเพียรสิน รองอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยหลังจากลงนามว่า ในปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ มีความต้องการแรงงานระดับปฏิบัติการเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับการผลิต คาดว่าความต้องการจะเพิ่มสูงขึ้นอีกเมื่อการลงทุนเพิ่มขึ้นในกลุ่ม10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) กพร.จึงร่วมกับกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท (ธุรกิจชิ้นส่วนโลหะ) สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดฝึกอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ผ่านมาดำเนินการการฝึกอบรมแล้วจำนวน 2,965 คน สำหรับในปี 2562 ได้มีการยกระดับความร่วมมือจัดฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ มากขึ้น ให้มีทักษะฝีมือปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่เช่น การเชื่อมจุดด้วยความต้านทานในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การควบคุมการเชื่อมชิ้นส่วนยานยนต์ด้วยหุ่นยนต์ การเชื่อมแม๊กสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น เป้าหมายดำเนินการ 420 คน โดยได้มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 1 สมุทรปราการ ให้การสนับสนุนจัดฝึกอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติแก่กลุ่มเป้าหมายตามความร่วมมือดังกล่าว
“ความร่วมมือตามแนวทางประชารัฐในครั้งนี้ จะช่วยสร้างนวัตกรรมให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับแรงงานในการเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 รวมถึงเป็นการสนับสนุนให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย” รองอธิบดีกพร.กล่าว