เมื่อเร็วๆ นี้ ดร.ยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ศาสตราจารย์นพ.ดร.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยวิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (ธัชชา) กับสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติและกรมศิลปากร ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (ถนนโยธี) กรุงเทพฯ ทั้งนี้ บันทึกความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างความร่วมมือทางวิชาการ งานวิจัย และการส่งเสริมขับเคลื่อนโครงการหรือกิจกรรมต่างๆ ภายใต้กรอบการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ
ปลัดวธ. กล่าวว่า ทาง วธ. มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ” ถือเป็นการบูรณาการข้ามศาสตร์ 2 ศาสตร์ นั่นคือ สังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ที่บางคนอาจจะมองว่าไปด้วยกันไม่ได้ แต่แท้จริงแล้วสองศาสตร์นี้คือสิ่งที่เกื้อหนุนกัน วธ. เรามีภารกิจงานทางด้านสังคมศาสตร์ เชิงอนุรักษ์ การส่งเสริม การพัฒนาต่อยอด เหล่านี้คือรากฐานสำคัญที่เราจะคงรักษามรดกทางวัฒนธรรมของเราเอาไว้ ในขณะเดียวกันการต่อยอดไปสู่อนาคต การถ่ายทอด การรักษา การพัฒนา จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม ใช้พื้นฐานของงานวิจัยเพื่อก่อให้เกิดความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนภารกิจงานภายใต้ วธ.
“นอกเหนือจากกรมศิลปากรแล้ว เรายังมีหน่วยงานภายใต้สังกัด เช่น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) พร้อมทำงานร่วมกับ อว. พัฒนาประเทศด้วยทุนวัฒนธรรม ทั้งเรื่องของฐานข้อมูลและคลังมรดกวัฒนธรรมต่างๆ งานวิจัย พัฒนา สร้างมูลค่า คุณค่า เกิดขึ้นพร้อมกัน ดังนั้น การศึกษาวิจัย นวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะเข้ามาช่วยทำงานวัฒนธรรม นำมาใช้ขับเคลื่อนสู่อนาคต พัฒนา สืบสาน รักษาและต่อยอด ดังนั้น จากการบูรณาการกันครั้งนี้ เราจะได้เห็นปรากฎการณ์สิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้น นำพาประเทศไทยไปสู่จุดหมายที่วางไว้อย่างมั่นคง มั่งคั่งต่อไป” ปลัดวธ. กล่าว