“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 120,924,813 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,504 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 947.8 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.6%)
➡️(18 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,504 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 27.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 548 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 214 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 947.8 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 336.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 120,924,813 โดส
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,504 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 120,924,813 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,956,901 โดส (80% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,357,630 โดส (74.6% ของประชากร)
-เข็มสาม 18,610,282 โดส (28.1% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 18 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 120,924,813 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 221,920 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 273,309 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,890,864 โดส
– เข็มที่ 2 3,598,733 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,834,608 โดส
– เข็มที่ 2 28,381,725 โดส
– เข็มที่ 3 4,744,620 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,533,304 โดส
– เข็มที่ 2 7,224,731 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,964,379 โดส
– เข็มที่ 2 9,353,667 โดส
– เข็มที่ 3 10,977,268 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 733,746 โดส
– เข็มที่ 2 798,774 โดส
– เข็มที่ 3 2,888,394 โดส
4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 90.6% เข็มที่2 87.1% เข็มที่3 75.8%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112.6% เข็มที่2 104.3% เข็มที่3 57.1%
3. นนทบุรี เข็มที่1 81.9% เข็มที่2 78.2% เข็มที่3 53.7%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.4% เข็มที่2 80.3% เข็มที่3 49.1%
5. ลำพูน เข็มที่1 80.6% เข็มที่2 76.6% เข็มที่3 37.9%
6. อยุธยา เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 71.1% เข็มที่3 37.7%
7. ระยอง เข็มที่1 84% เข็มที่2 80.1% เข็มที่3 35.4%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.5% เข็มที่2 78.8% เข็มที่3 32.3%
9. นครปฐม เข็มที่1 76.7% เข็มที่2 75.8% เข็มที่3 31.7%
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 81.2% เข็มที่2 69.3% เข็มที่3 30.5%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.5% เข็มที่2 44.8% เข็มที่3 5.9%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.5% เข็มที่2 45.4% เข็มที่3 6%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63.2% เข็มที่2 55.9% เข็มที่3 8%
4. ยะลา เข็มที่1 62.7% เข็มที่2 52.3% เข็มที่3 8.4%
5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 57.3% เข็มที่3 9.6%
6. สตูล เข็มที่1 64% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 10.9%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 60% เข็มที่3 10.9%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57.7% เข็มที่2 47.9% เข็มที่3 11.1%
9. สกลนคร เข็มที่1 65.2% เข็มที่2 58.9% เข็มที่3 11.5%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 69.6% เข็มที่2 64.9% เข็มที่3 12%
5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 947,891,329 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 336,459,621 โดส (68.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 189,761,776 โดส (81.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 133,234,116 โดส (55.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 120,924,813 โดส (80%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 65,702,191 โดส (80.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 43,533,019 โดส (42.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 35,169,773 โดส (85.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 9,077,344 โดส (65.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.63%
2. ยุโรป 10.27%
3. อเมริกาเหนือ 8.7%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.18%
5. แอฟริกา 3.59%
6. โอเชียเนีย 0.63%
7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,063.39 ล้านโดส (216.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,746.32 ล้านโดส (126.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 548.44 ล้านโดส (163.6%)
4. บราซิล จำนวน 380.88 ล้านโดส (179.9%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 336.46 ล้านโดส (122%)
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (306.7%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (258.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (245.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. มัลดีฟส์ (233.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. เกาหลีใต้ (229.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
6. บาห์เรน (229.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
7. กาตาร์ (228.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
8. เดนมาร์ก (225.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
9. อิตาลี (222.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna J&J และ AstraZeneca/Oxford)
10. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)