ภาครัฐ ภาคประชาสังคม และ 12 องค์กรเอกชนชั้นนำ ร่วมประชุมหัวหน้าคณะทำงานสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ และ
-
ความสำเร็จโครงการระยะที่ 1 ที่เกิดขึ้นกับ 3,351 โรงเรียน
ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของการยกระดับการศึกษา ตามโครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ (E5) และโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (CONNEXT ED) ที่เกิดขึ้น นำโดยรัฐบาลภายใต้แกนนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญในการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน (ภาครัฐ-ประชาสังคม-เอกชน) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต ด้วยความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จุดประกายสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทย ผ่านการสนับสนุนโรงเรียนประชารัฐในระยะที่ 1 จำนวน 3,351 โรงเรียน ใน 77 จังหวัด จาก 225 เขตพื้นที่การศึกษา ครอบคลุมนักเรียนจำนวน 749,349 คน
ในวันนี้ ทุกภาคส่วนได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมพัฒนา การศึกษา และภาคประชาสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านวิชาการ รวมถึงภาคเอกชน 12 องค์กรผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ ผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (CONNEXT ED) ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ กลุ่มเซ็นทรัล บมจ. ซีพี ออลล์ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร กลุ่มมิตรผลและบมจ.บ้านปู บมจ.ปตท. ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บมจ.ปูนซิเมนต์ ไทย บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ บมจ.ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยง 10 ยุทธศาสตร์พร้อมผลักดันแผนพัฒนาด้วยผู้นำรุ่นใหม่ School Partner ไปสู่โรงเรียนประชารัฐ จนเห็นผลสัมฤทธิ์สร้างเด็กดี-เด็กเก่งได้อย่างเป็นรูปธรรม
-
10 ยุทธศาสตร์ที่นำไปสู่ความสำเร็จของโครงการระยะแรก
ความสำเร็จจากการขับเคลื่อนโครงการระยะแรก กว่า 2 ปีที่ผ่านมา มีผลมาจากการวางแผนและดำเนินการตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และ 10 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ดังนี้
-
ผลแห่งความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมชัดเจน
1) ตัวชี้วัดโรงเรียนประชารัฐ (KPIs) และการแบ่งเกณฑ์โรงเรียน (School Grading) การจัดทำตัวชี้วัดโรงเรียนประชารัฐ (KPIs) เพื่อประเมินการพัฒนาของโรงเรียนอย่างเป็นระบบ และการจัดระดับคุณภาพ โรงเรียนเพื่อแบ่งเกณฑ์โรงเรียน (School Grading) ตามระดับการพัฒนาในขั้นต่าง ๆ เปิดเผยสู่สาธารณะอย่างโปร่งใส ผ่านเว็บไซต์ www.pracharathschool.go.th และ Pracharath Application สามารถวิเคราะห์ เปรียบเทียบข้อมูล โรงเรียนได้ทั้งระดับประเทศ ภาค จังหวัด และรายโรงเรียน เพื่อประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาโรงเรียนในระยะต่อไป
2) LEARNING CENTER จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (LEARNING CENTER) ใน 5 ภูมิภาค เพื่อเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัด การศึกษาและพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
3) Knowledge Based Learning มอบสื่อ ICT ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง เพื่อใช้ในการเรียนการสอน พร้อมเผยแพร่บน www.pracharathschool.go.th และจัดทำ CONNEXT ED Studio บันทึกและถ่ายทอดการสอนจากผู้เชี่ยวชาญสู่นักเรียนและครูทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ทันสมัย ลดปัญหาการขาดแคลนครูไม่ครบวิชา
4) High Speed Internet / การมอบอุปกรณ์ ICT เพื่อการศึกษา ติดตั้งระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง (High Speed Internet) 1,294 โรงเรียน เพื่อเชื่อมต่อแหล่งการเรียนรู้จากทั่วทุกมุมโลกมาใช้ในกระบวนการเรียนการสอน และติดตั้งอุปกรณ์ ICT เพื่อการศึกษาในทุกห้องเรียน จำนวน 39,829 ห้องเรียน
5) SCHOOL PARTNER จัดอบรมหลักสูตรพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ การพัฒนาผู้นำรุ่นใหม่ (School Partner) ซึ่งเป็นตัวแทนจาก 12 บริษัทเอกชน ภายใต้โครงการ CONNEXT ED เพื่อเสริมทักษะในด้านต่าง ๆ ในการลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ร่วมวางแผนพัฒนาโรงเรียนกับผู้บริหารโรงเรียน
6) โครงการผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา (ICT TALENT) คัดเลือกเหล่าผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจากทั่วประเทศ ปฏิบัติงานในโรงเรียนประชารัฐ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพครู นักเรียน และชุมชน ผ่านการใช้สื่อและความรู้ ICT โดยมี ICT Talent จำนวน 100 คน ในปี 2560 และจะขยายผลเพิ่มอีก 100 คน ในปี 2561
7) การสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียน การสนับสนุนโรงเรียนประชารัฐของ 12 องค์กรเอกชน ผ่านการจัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนตามยุทธศาสตร์ของโครงการใน ด้านต่าง ๆ อาทิ การสนับสนุนหลักสูตรวิชาการ วิชาชีพ การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา เกิดเป็นโครงการต้นแบบที่ช่วยยกระดับการศึกษาของโรงเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมงบประมาณสนับสนุนกว่า 322 ล้านบาท
8) Partnership Program จุดมุ่งหมายสำคัญของการจัดการศึกษาไทยในศตวรรษที่ 21 ที่สำคัญยิ่ง คือ “การสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อ ยกระดับการศึกษาไทย” ทางโครงการจึงได้จัดทำรูปแบบการสนับสนุนการจัดการศึกษา เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการสร้าง “เด็กดี เด็กเก่ง” โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมทั้งนิติบุคคล ในรูปแบบบริษัทหรือสถาบันต่าง ๆ และบุคคลธรรมดา โดยสามารถสนับสนุนได้ทั้งด้านผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาหลักสูตรการสอน การจัดอบรมต่าง ๆ หรือด้านงบประมาณ
-
แผนปฏิบัติการเร่งรัด (Quick Win 2018)
สำหรับการประชุมครั้งนี้ เป็นการรายงานผลการดำเนินโครงการระยะที่ 1 (2559-2560) และเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการศึกษา 3 ภาคส่วน รวมทั้งวางเป้าหมายแนวทางการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเร่งรัด ระยะที่ 2
• Job Demand Platform การสร้างฐานข้อมูลด้านตลาดงานทุกภาคอุตสาหกรรมในอดีตและแนวโน้มในอนาคต เปิดเผยสู่สาธารณะ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กรมสรรพากร ในการรวบรวมและเปิดเผยข้อมูล เพื่อประโยชน์ในการเตรียมกำลังคนและพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่ตรงกับความต้องการของตลาดงานในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างแท้จริง
• โรงเรียนประชารัฐ ระยะที่ 2 ขยายการสนับสนุนโรงเรียนประชารัฐเพิ่มอีก 1,246 โรงเรียน ในปี 2561 มุ่งสู่เป้าหมาย 10-15% ของโรงเรียนทั่วประเทศ โดยมีการขับเคลื่อน 10 ยุทธศาสตร์ และขยายผลความร่วมมือสู่ภาคีในภาคส่วนต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
• Capability Center ภาคเอกชนเข้าร่วมพัฒนา Capability Center ในสถาบันอาชีวศึกษา ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณของภาครัฐ เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ ฝึกทักษะอาชีพ ที่สามารถเชื่อมโยงการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน โดยมีเป้าหมายในการจัดตั้งศูนย์มากกว่า 10% ของสถาบันอาชีวศึกษา (ประมาณ 80 ศูนย์)
• Partnership School การต่อยอดโรงเรียนประชารัฐสู่โครงการ “โรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School) ที่เปิดโอกาสให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการโรงเรียน ให้ความเป็นอิสระและคล่องตัวในการบริหารการศึกษา ทั้งในด้านการบริหารบุคคล งบประมาณ การจัดการเรียนการสอน โดยมีเป้าหมายในการขยายผลสู่ 77 โรงเรียนทั่วประเทศ
• Media & Digital Media
– เพิ่ม 1 นาทีในทุกชั่วโมง ช่วง Prime Time เพื่อสื่อสารคอนเทนต์ด้านการศึกษา
– ผลักดัน Media & Digital Media เข้ามาส่งเสริมการรับรู้เพื่อสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมด้านการศึกษาของทุกภาคส่วน (Shaping Cultures)
ทั้งนี้ โครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ (E5) และโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (CONNEXT ED) จะยังเดินหน้าขยายบทบาทความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพิ่มเติม ทั้งองค์กรเอกชนอื่น ๆ และเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เปิดมิติใหม่ด้านความสำเร็จทางการศึกษา เสริมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคม สู่ความก้าวหน้าก้าวไกลทางระบบการจัดการศึกษาได้อย่างทัดเทียม
จากตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชน และ
ผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้
ประกอบด้วย
ภาครัฐ
– นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
– ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
– ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานกรรมการคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา
– ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
– ม.ล.ปริยดา ดิศกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
– ดร.วีรสิทธิ์ สิทธิไตรย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
– ดร.ปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานกรรมการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
– รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการบริหารการศึกษา) คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และประธานคณะอนุกรรมการ ด้านการบริหารจัดการโรงเรียนประชารัฐฯ
– ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ฯลฯ
ภาคประชาสังคม
– ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้บริหารสูงสุดโรงเรียนสัตยาไสย
– ดร.วิทิต รัชชตาตะนันท์ ผู้อำนวยการโรงเรียนปัญญาประทีป
ภาคเอกชน
นำโดย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ / ประธานคณะกรรมการ บริหาร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชน โครงการสานพลังประชารัฐ ด้านการศึกษาพื้นฐานและการพัฒนาผู้นำ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง ผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ CONNEXT ED ได้แก่
– บมจ. ธนาคารกรุงเทพ โดย นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร
– บมจ. เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ โดย นางสาวอานุสรา จิตต์มิตรภาพ ที่ปรึกษา
– กลุ่มเซ็นทรัล โดย ดร.ชาติชาย นรเศรษฐาภรณ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส
– บมจ. ซีพี ออลล์ โดย นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
– บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร โดย นายเอนก บุญหนุน ประธานคณะบริหารโครงการ
– กลุ่มมิตรผล โดย นายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บมจ.บ้านปู
– บมจ. ปตท. โดย นายกฤษณ์ อิ่มแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารองค์กรและความยั่งยืน
– บมจ. ธนาคารไทยพาณิชย์ โดย นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
– บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย โดย นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่
– บมจ. ไทยเบฟเวอเรจ โดย นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่
– บมจ. ไทย ยูเนี่ยนกรุ๊ป โดย นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ขอบคุณภาพและข้อมูล จาก www.thaigov.go.th