กระทรวงสาธารณสุข เตรียมจัดประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์สัญจร 12 เขตสุขภาพ เริ่ม 4 มีนาคม 2565 ที่เขตสุขภาพที่ 9 จ.สุรินทร์ เป็นแห่งแรก เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน และผู้ประกอบการ หลังปลดกัญชาออกจากยาเสพติด ส่งเสริมการดูแลรักษาตนเองอย่างมีคุณภาพและปลอดภัย ต่อยอดทางเศรษฐกิจได้ตามนโยบายรัฐบาล
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายขับเคลื่อนกัญชาทางการแพทย์ ซึ่งตั้งแต่มีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ.2562 นับเป็นเวลากว่า 3 ปี
ที่สามารถทำให้ผู้ป่วยเกือบแสนรายเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยากัญชาที่มีคุณภาพและความปลอดภัย และช่วยสร้างความมั่นคงทางยาของประเทศ เนื่องจากมีการจัดระบบและพัฒนามาตรฐานตั้งแต่การปลูก การผลิต การสกัด และการใช้ ทำให้มีกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกกัญชาให้กับสถานพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขกว่า 350 กลุ่ม และปลูกกัญชงกว่า 1,500 กลุ่ม นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำแนวทางการรักษาด้วยยากัญชา ทั้งยาสารสกัดและยาตำรับแพทย์แผนไทย และกำหนดไว้ในแผนการจัดบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุข มีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์และประเมินผลการรักษา จัดทำเป็นงานวิจัยทางคลินิกตีพิมพ์กว่า 10 ฉบับ ทำให้กระทรวงสาธารณสุขมั่นใจที่จะผลักดันกัญชาให้เป็นพืชเศรษฐกิจเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ โดยล่าสุดมีการออกประกาศรายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท 5 พ.ศ. 2565 ที่ถอดกัญชากัญชงออกจากยาเสพติด ยกเว้นสารกัดที่มีสาร THC เกิน 0.2%
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญต่อจากนี้คือ การสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องแก่บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชน และผู้ประกอบการทั่วประเทศ กระทรวงสาธารณสุขจึงร่วมกับภาคีเครือข่าย ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงภาคเอกชน จัดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์สัญจร 12 เขตสุขภาพ เพื่อนำประสบการณ์ที่กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายดำเนินการในด้านการพัฒนากัญชากัญชง มากว่า 3 ปี มาถ่ายทอดให้สาธารณะได้รับทราบ รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้ให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งด้านการใช้ การวิจัย การผลิต และต่อยอดธุรกิจ โดยเริ่มแห่งแรกที่เขตสุขภาพที่ 9 จ.สุรินทร์ ในวันที่ 4 มีนาคม 2565 และจัดต่อเนื่องจนครบ 12 เขตสุขภาพ ในเดือนพฤษภาคม 2565
นพ.ภูวเดช สุรโคตร ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ กล่าวว่า การจัดงานแต่ละครั้งจะจัดต่อเนื่องถึง 3 วัน ในงานมีองค์ประกอบ 3 ส่วน ได้แก่ การประชุมวิชาการ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ และนิทรรศการและตลาดนัดความรู้ โดยในส่วนของการประชุมวิชาการจะมี 3 กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ประกอบวิชาชีพแผนปัจจุบัน แผนไทย และประชาชน ซึ่งมีการจัดทำเนื้อหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการปลด “พืชกัญชา” ออกจากรายการยาเสพติดให้โทษ และเน้นให้ความสำคัญกับภาคประชาชน ตั้งแต่ข้อกฎหมาย องค์ความรู้พื้นฐานกัญชา การรักษาตนเองให้ได้ผลและปลอดภัยที่สุด การพัฒนารูปแบบธุรกิจที่ตลาดทั้งในและต่างประเทศต้องการ และการต่อยอดทางเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ยึดตามความต้องการและความสนใจของประชาชนเป็นที่ตั้ง สอดคล้องกับนโยบายของประเทศที่ต้องสนับสนุนประชาชนระดับครัวเรือน
นอกจากนี้ ยังมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์ที่ผู้ป่วยสามารถรับคำปรึกษาและยาได้ รวมถึงมีนิทรรศการให้ชม ชิม และซื้อผลิตภัณฑ์กัญชาของผู้ประกอบการไทยอีกด้วย ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้จาก เพจสถาบันกัญชาทางการแพทย์ หรือโทร 0-2590-1501
************************************** 15 กุมภาพันธ์ 2565