“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 119,011,647 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,326 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 925.5 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.2%)
➡️(11 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,326 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 24.5 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 546 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 213 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 925.5 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 328.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 119,011,647 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.63%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,326 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 119,011,647 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,657,317 โดส (79.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,107,345 โดส (74.2% ของประชากร)
-เข็มสาม 17,246,985 โดส (26.1% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 11 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 119,011,647 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 514,227 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 414,395 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,884,546 โดส
– เข็มที่ 2 3,598,364 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,797,833 โดส
– เข็มที่ 2 28,329,744 โดส
– เข็มที่ 3 4,554,432 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,524,135 โดส
– เข็มที่ 2 7,216,522 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,730,933 โดส
– เข็มที่ 2 9,185,621 โดส
– เข็มที่ 3 10,007,245 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 719,870 โดส
– เข็มที่ 2 777,094 โดส
– เข็มที่ 3 2,685,308 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.2% เข็มที่2 112% เข็มที่3 166%
– อสม เข็มที่1 80% เข็มที่2 78.3% เข็มที่3 44.6%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.9% เข็มที่2 101.1% เข็มที่3 37.5%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 89% เข็มที่2 82.3% เข็มที่3 29.3%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 62.2% เข็มที่3 20.2%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 72.5% เข็มที่2 70% เข็มที่3 0%
– เด็กอายุ 5-11 ปี เข็มที่1 2.1% เข็มที่2 0.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 75.7% เข็มที่2 70.6% เข็มที่3 24.8%
5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 89.9% เข็มที่2 87% เข็มที่3 68.8%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112.2% เข็มที่2 104% เข็มที่3 51.7%
3. นนทบุรี เข็มที่1 81.7% เข็มที่2 78.1% เข็มที่3 50.8%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.1% เข็มที่2 79.9% เข็มที่3 44.3%
5. ลำพูน เข็มที่1 80.2% เข็มที่2 75.9% เข็มที่3 36.1%
6. อยุธยา เข็มที่1 73.1% เข็มที่2 70.8% เข็มที่3 35.2%
7. ระยอง เข็มที่1 83.4% เข็มที่2 79.6% เข็มที่3 32.7%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.1% เข็มที่2 78.5% เข็มที่3 29.9%
9. นครปฐม เข็มที่1 76.2% เข็มที่2 75.5% เข็มที่3 29.8%
10. สระบุรี เข็มที่1 65.4% เข็มที่2 65.2% เข็มที่3 28.1%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 44.7% เข็มที่3 5.6%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.3% เข็มที่2 45.2% เข็มที่3 5.8%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 55.6% เข็มที่3 7.8%
4. ยะลา เข็มที่1 62.5% เข็มที่2 52.2% เข็มที่3 8.1%
5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 62.6% เข็มที่2 57% เข็มที่3 9.2%
6. สตูล เข็มที่1 63.5% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 10.1%
7. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57.3% เข็มที่2 46.5% เข็มที่3 10.2%
8. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 59.6% เข็มที่3 10.2%
9. สกลนคร เข็มที่1 64.8% เข็มที่2 58.3% เข็มที่3 11.2%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 69.1% เข็มที่2 64.7% เข็มที่3 11.7%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 925,575,205 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 328,946,156 โดส (68.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 184,129,785 โดส (81.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 129,125,464 โดส (54.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 119,011,647 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 64,611,898 โดส (80.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 42,030,270 โดส (41.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 34,650,468 โดส (85%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 9,040,841 โดส (65.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.49%
2. ยุโรป 10.38%
3. อเมริกาเหนือ 8.77%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.17%
5. แอฟริกา 3.56%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,022.65 ล้านโดส (213.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,717.95 ล้านโดส (124.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 545.52 ล้านโดส (162.7%)
4. บราซิล จำนวน 373.33 ล้านโดส (176.3%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 328.95 ล้านโดส (119.2%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (305.2%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (256.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (242.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. บาห์เรน (229.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. เกาหลีใต้ (227.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
6. มัลดีฟส์ (226.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
7. เดนมาร์ก (225.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
8. กาตาร์ (224.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
9. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
10. สิงคโปร์ (221.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)