รองเลขาธิการนายกฯ “พลพีร์” ย้ำโควิด-19 จุดเปลี่ยนสำคัญ ต้องเตรียมพร้อมสร้างเสริมสุขภาพ ชื่นชมพลังท้องถิ่นเข็มแข็ง-เยาวชนสร้างสรรค์ สร้าง “โคราชเมืองน่าอยู่” สสส. หนุน 300 แกนนำเยาวชนสร้างพื้นที่สุขภาวะยั่งยืน เสริมภูมิคุ้มกัน-ลดพฤติกรรมเสี่ยงท้องวัยรุ่น
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง พร้อมด้วยคณะกรรมการกองทุนฯ นำโดย นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ คนที่ 2 และผู้บริหาร สสส. ลงพื้นที่โครงการ “โคราชเมืองน่าอยู่ : คนเข้มแข็ง ท้องถิ่นแข็งแรง” เพื่อร่วมรับฟังการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. และภาคีเครือข่ายระดับพื้นที่ ณ โรงเรียนหินดาดวิทยา ต.หินดาด อ.ห้วยแถลง และ โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม ต.โนนตูม อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ประเด็นตำบลสุขภาวะ การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ สร้างพื้นที่ทางปัญญา เสริมศักยภาพเด็กเยาวชนในพื้นที่ มีภาคีเครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพ จ.นครราชสีมา อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นักวิชาการ เครือข่ายสถานศึกษา หน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เข้าร่วมกว่า 500 คน
รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ยาวนานกว่า 2 ปี ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือต่อปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพของ สสส. และภาคีเครือข่าย จึงจำเป็นต้องติดตาม ศึกษา วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ รวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาเป็นโจทย์สำคัญในการวางแผนการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพให้เกิดประสิทธิภาพ และประสิทธิผลให้ได้มากที่สุด
“สสส. ไม่สามารถขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพได้เพียงลำพัง แต่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ร่วมเป็นภาคีเครือข่ายสนับสนุน และเป็นกำลังสำคัญในการทำงาน โดยเฉพาะภาคีเครือข่ายในระดับจังหวัดเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ สะท้อนปัญหาและพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การวางมาตรการแนวทางป้องกันและแก้ไขร่วมกัน ผมเชื่อว่า ความแข็งแรงของชาวโคราช จะจุดประกายให้พื้นที่อื่นๆ เห็นความสำคัญของงานสร้างเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการพัฒนาประเทศ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์สังคมสุขภาวะให้เกิดขึ้นรอบตัวต่อไป” นายพลพีร์ กล่าว
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนงานระดับพื้นที่เพื่อสร้างเครือข่ายสุขภาพ สร้างการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม สังคม และสิ่งแวดล้อมให้เกิดเป็นเมืองแห่งสุขภาวะ โดย จ.นครราชสีมา เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องกว่า 1,000 โครงการ มีเครือข่ายทางสุขภาพกว่า 350 องค์กรในระดับพื้นที่ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะการขับเคลื่อนงานตำบลสุขภาวะ เกิดนวัตกรรมรับมือการแก้ไขปัญหาชุมชนครอบคลุม 10 ประเด็น อาทิ ระบบการดูแลเด็กปฐมวัย การจัดการภัยพิบัติ การควบคุมยาสูบ แอลกอฮอล์ และสารเสพติด พัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้สูงอายุ ระบบบริการสุขภาพ รวมถึงสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งเครือข่ายชุมชนเป็นส่วนสำคัญในการจัดการป้องกัน และเฝ้าระวังในพื้นที่
“สสส. ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน มีสุขภาวะทั้งกาย จิต ปัญญาและสังคม มีภูมิคุ้มกันในตัวเองต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพ ส่งเสริมให้มีศักยภาพและมีโอกาสสร้างพื้นที่ในการแสดงตัวตน จนสามารถพัฒนาเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ชุมชนและสังคม ปัจจุบันเกิดแกนนำเด็กและเยาวชนในพื้นที่กว่า 300 คน ในการทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่สร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมหลายรูปแบบ อาทิ ค่ายเสริมไอเดียสร้างสรรค์ กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จิตอาสา เชื่อว่าเยาวชนกลุ่มนี้จะกลายเป็นกำลังสำคัญของชาวโคราชช่วยสร้างสังคมสุขภาวะให้เกิดขึ้นต่อไป นอกจากนี้ยังมีกลไกการทำงานที่เชื่อมกับระบบ “ผู้ว่าฯ ช่วยได้” ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาตั้งครรภ์วัยรุ่นในระดับพื้นที่ ผ่านการรายงานในระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอทำให้ จ.นครราชสีมา เป็น 1 ใน 20 จังหวัดต้นแบบ และทำให้จำนวนท้องวัยรุ่นในพื้นที่ลดลง” ดร.สุปรีดา กล่าว