“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 115,531,164 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,149 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง

“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 115,531,164 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,149 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 904.01 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (111.7%)

➡️(2 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,149 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 539 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 212 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 904.01 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 318.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 115,531,164 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.77%

🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,149 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565

จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 115,531,164 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น

-เข็มแรก 52,357,334 โดส (79.1% ของประชากร)

-เข็มสอง 48,685,999 โดส (73.6% ของประชากร)

-เข็มสาม 14,487,831 โดส (21.9% ของประชากร)

2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64-2 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 1115,531,164 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 274,648 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 335,653 โดส/วัน

3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย

วัคซีน Sinovac

– เข็มที่ 1 22,877,004 โดส

– เข็มที่ 2 3,587,161 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน AstraZeneca

– เข็มที่ 1 13,731,812 โดส

– เข็มที่ 2 28,247,019 โดส

– เข็มที่ 3 4,146,011 โดส

วัคซีน Sinopharm

– เข็มที่ 1 7,514,135 โดส

– เข็มที่ 2 7,190,346 โดส

– เข็มที่ 3 0 โดส

วัคซีน Pfizer

– เข็มที่ 1 7,536,326 โดส

– เข็มที่ 2 8,903,041 โดส

– เข็มที่ 3 8,191,058 โดส

วัคซีน Moderna

– เข็มที่ 1 68,057 โดส

– เข็มที่ 2 758,432 โดส

– เข็มที่ 3 2,150,762 โดส

4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย

– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.2% เข็มที่2 112% เข็มที่3 98.1%

– อสม เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 78% เข็มที่3 38.1%

– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.7% เข็มที่2 100.5% เข็มที่3 32.1%

– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88.7% เข็มที่2 81.6% เข็มที่3 25.1%

– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.9% เข็มที่2 61.6% เข็มที่3 17.7%

– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 69.3% เข็มที่3 0%

– เด็กอายุ 5-12 ปี เข็มที่1 0.1% เข็มที่2 0% เข็มที่3 0%

รวม เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 70% เข็มที่3 20.8%

5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด

1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 111.7% เข็มที่2 103.4%

2. ภูเก็ต เข็มที่1 89.7% เข็มที่2 86.9%

3. ปทุมธานี เข็มที่1 86.9% เข็มที่2 81.8%

4. สมุทรปราการ เข็มที่1 90.8% เข็มที่2 79.4%

5. ระนอง เข็มที่1 83.1% เข็มที่2 79.4%

6. ระยอง เข็มที่1 82.8% เข็มที่2 79.1%

7. ชลบุรี เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 77.9%

8. นนทบุรี เข็มที่1 81.3% เข็มที่2 77.8%

9. พังงา เข็มที่1 78% เข็มที่2 75.8%

10. นครปฐม เข็มที่1 75.8% เข็มที่2 75.1%

10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด

1. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 56.3% เข็มที่2 43.6%

2. นราธิวาส เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 44.5%

3. ปัตตานี เข็มที่1 56% เข็มที่2 45.1%

4. ตาก เข็มที่1 57% เข็มที่2 47.7%

5. ยะลา เข็มที่1 62.4% เข็มที่2 52.1%

6. กาญจนบุรี เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 53.3%

7. ลพบุรี เข็มที่1 57.7% เข็มที่2 53.7%

8. บึงกาฬ เข็มที่1 62.7% เข็มที่2 54.8%

9. หนองบัวลำภู เข็มที่1 62.1% เข็มที่2 56.1%

10. สกลนคร เข็มที่1 64.1% เข็มที่2 56.8%

6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 904,012,182 โดส ได้แก่

1. อินโดนีเซีย จำนวน 318,502,887 โดส (67.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm

2. เวียดนาม จำนวน 181,280,001 โดส (81%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm

3. ฟิลิปปินส์ 127,163,606 โดส (54.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca

4. ไทย จำนวน 115,531,164 โดส (79.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm

5. มาเลเซีย จำนวน 63,601,771 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac

6. พม่า จำนวน 41,196,433 โดส (40.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

7. กัมพูชา จำนวน 34,238,161 โดส (84.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac

8. สิงคโปร์ จำนวน 12,684,264 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac

9. ลาว จำนวน 8,848,764 โดส (64.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca

10. บรูไน จำนวน 965,131 โดส (94.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm

* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม

7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค

1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.60%

2. ยุโรป 10.38%

3. อเมริกาเหนือ 8.78%

4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.08%

5. แอฟริกา 3.55%

6. โอเชียเนีย 0.61%

8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก

1. จีน จำนวน 3,000.20 ล้านโดส (212.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)

2. อินเดีย จำนวน 1,706.37 ล้านโดส (123.8%)

3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 539.34 ล้านโดส (160.9%)

4. บราซิล จำนวน 361.31 ล้านโดส (170.6%)

5. อินโดนีเซีย จำนวน 318.50 ล้านโดส (115.4%)

9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)

1. คิวบา (301.3%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)

2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (253.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)

3. ชิลี (239.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)

4. บาห์เรน (228.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)

5. เดนมาร์ก (224.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)

6. เกาหลีใต้ (223.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)

7. มัลดีฟส์ (221.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)

8. บรูไน (218.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)

9. กาตาร์ (216.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)

10. สิงคโปร์ (215.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)