เมื่อหนีไม่พ้นจึงต้องพร้อมรับมือกับทุกวิกฤต หลายสิ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตสุขภาพ “โควิด-19” ครั้งใหญ่เป็นเวลานานกว่า 2 ปี ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนในวงกว้าง
เมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การสร้างเสริมสุขภาพผ่าน “นวัตกรรม” ที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสุขภาพอย่างรอบด้าน จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยให้เราพร้อมรับมือกับทุกวิกฤตสุขภาพที่จะเกิดขึ้นได้
“แม้จะมี ระยะ ห่าง แต่เราไม่หยุดสร้างนวัตกรรุ่นใหม่ เพื่อนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพคนไทย” ด้วยความสำคัญของภารกิจสร้างเสริมสุขภาพให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดีครบทั้ง 4 มิติ กาย จิต ปัญญา สังคม ภายใต้แนวคิด “สร้าง นำ ซ่อม” สุขภาพ และ “ป้องกัน ก่อน รักษา” เป็นสิ่งที่ สสส. ยึดมั่นและขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นในสังคมไทยนั้น จึงเกิดเป็นโครงการ การประกวดนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation 2021 ขึ้น เพื่อค้นหานักนวัตกรรมรุ่นใหม่ ที่จะมาร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาในแต่ละพื้นที่ สานพลังอย่างมีส่วนร่วมของชุมชน ร่วมสร้างบรรทัดฐานใหม่ที่ดีให้กับสังคม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุภาพ (สสส.) กล่าวในพิธีประกาศผลและมอบรางวัล Prime Minister’s Award for Health Promotion Innovation ว่า “ผมขอแสดงความยินดีกับทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในแต่ละประเภท และทุกทีมที่ผ่านการเข้ารอบ 20 ทีมสุดท้าย ผมรู้สึกภาคภูมิใจกับทุกชิ้นงาน ภาคภูมิใจกับทุกความทุ่มเทและความพยายามของนักเรียน นักศึกษา ที่ร่วมกันคิด ริเริ่มอย่างสร้างสรรค์จนออกมาเป็นผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพที่ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสุขภาพ ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เท่าทันกับสถานการณ์ของโลก เข้าใจแนวทางการสร้างเสริมสุขภาวะ และนำนวัตกรรมที่ได้ถูกนำไปใช้ในวงกว้าง เป็นเครื่องมือสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และขอขอบคุณทุกสถานศึกษา ครูทุกคน และขอบคุณ สสส. ที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความสามารถในการร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรมคุณภาพ แก้ไขและสร้างสังคมสุขภาวะต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า สสส. ไม่ได้มุ่งหวังเพียงแค่การประกวดเพื่อให้ได้ชิ้นงานนวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังมุ่งจะสร้างเมล็ดพันธุ์นวัตกรสร้างเสริมสุขภาพ ที่เกิดขึ้นทั้งลูกศิษย์และครู รวมถึงการต่อยอดผลงานให้สามารถขยายผลในวงกว้างต่อไป ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ริเริ่ม ใช้นวัตกรรมเป็นตัวขับเคลื่อนการมีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพให้กับทุกคนในสังคมไทยต่อไป
โดยในปีนี้โจทย์การประกวด คือ การนำประเด็นเป้าหมายหลักการทำงาน 10 ปีของ สสส. ที่ครอบคลุมทุกมิติสำหรับผลการประกวดในครั้งนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้คัดเลือกผลงานนวัตกรรมกันอย่างเข้มข้นจาก 362 ไอเดียนวัตกรรม จากทีมนวัตกร 45 จังหวัดทั่วประเทศ สู่การคัดเลือก 20 ทีมสุดท้าย ซึ่งทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ อันดับ 1 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้แก่ทีม ทีม Crying Cloud จากโรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (International School of Bangkok :ISB) ผลงาน Connecting Depression Therapy แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคัดกรองภาวะซึมเศร้าสำหรับวัยรุ่น
น้องแนนนี่และแอมมี่ ตัวแทนจากทีม Crying Cloud จากโรงเรียนนานาชาติกรุงเทพ (International School of Bangkok :ISB) กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ว่า “ดีใจที่ผลงานนวัตกรรมชิ้นนี้ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสุขภาวะด้านจิตใจ ขอบคุณทุก ๆ คน ในโครงการนี้ ขอบคุณ สสส. ที่ให้โอกาสและซัพพอร์ตพวกเราจนทำให้ได้รับรางวัลอันภาคภูมิใจนี้ และจะต่อยอด พัฒนาแอปพลิเคชันต่อไปจากระบบ Android ไปสู่ระบบ IOS เพื่อขยายฐานผู้ใช้ให้มากขึ้น” ตัวแทนจากทีม Crying Cloud กล่าว
ส่วนรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ระดับอาชีวศึกษา ได้แก่ ทีม NWM..Safety Roads 3 Plus จากวิทยาลัยการอาชีพนวมินทราชูทิศ กรุงเทพฯ ผลงานเครื่องฆ่าเชื้อโรคในหมวกนิรภัย
ซึ่งนอกจาก 2 รางวัลชนะเลิศนี้แล้ว ยังมีรางวัลความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทีม NGGYU จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ผลงานระบบตรวจจับการขับมอเตอร์ไซค์ย้อนศรจากภาพกล้องวงจรปิด และส่งข้อมูลแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรผ่านแอปพลิเคชัน Line เป็นทีมที่ได้รับรางวัลนี้อีกด้วย
นอกจากรางวัลที่น้อง ๆ ได้รับแล้ว ผู้เข้าร่วมการประกวดทุกคนยังได้รับประโยชน์และสิ่งดี ๆ มากมายจากโครงการนี้ อาทิ
แนวคิดสร้างเสริมสุขภาพ
ทักษะการพัฒนานวัตกรรม
แผนการพัฒนานวัตกรรม
บรรยากาศมิตรภาพ
ความสัมพันธ์ที่ดี
การประกวดที่เป็นมากกว่าการประกวด
เพราะมากกว่านวัตกรรม คือ การสร้างนวัตกรคุณภาพสู่สังคมไทย สสส. ได้ทำหน้าที่ในการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อสร้างนักนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ ให้แก่นักเรียน นักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ เป็นจุดเริ่มที่ดีเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ โดยเริ่มจากตัวเอง ชุมชน และสังคมรอบข้าง พัฒนาและต่อยอดนำไปใช้แก้ปัญหาสุขภาวะในระดับประเทศต่อไป
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการและผลงานนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่…https://web.facebook.com/pmhealthpromotioninnoaward