“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 30 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 114,956,275 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,107 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 899.1 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (111.6%)
➡️(30 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,107 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 538 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 212 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 899.1 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 316.7 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 30 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 114,956,275 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.77%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,107 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 30 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 114,956,275 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,308,722 โดส (79% ของประชากร)
-เข็มสอง 48,591,448 โดส (73.4% ของประชากร)
-เข็มสาม 14,056,105 โดส (21.2% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-30 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 114,956,275 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 379,081 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 354,967 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,875,207 โดส
– เข็มที่ 2 3,583,050 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,717,213 โดส
– เข็มที่ 2 28,224,825 โดส
– เข็มที่ 3 4,066,824 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,512,622 โดส
– เข็มที่ 2 7,187,089 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,512,575 โดส
– เข็มที่ 2 8,842,902 โดส
– เข็มที่ 3 7,899,537 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 691,105 โดส
– เข็มที่ 2 753,582 โดส
– เข็มที่ 3 2,089,744 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.2% เข็มที่2 112% เข็มที่3 98%
– อสม เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 78% เข็มที่3 37.8%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.7% เข็มที่2 100.4% เข็มที่3 31.1%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88.6% เข็มที่2 81.4% เข็มที่3 24.3%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.9% เข็มที่2 61.5% เข็มที่3 17.2%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 69.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 75.2% เข็มที่2 69.9% เข็มที่3 20.2%
5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 111.6% เข็มที่2 103.3%
2. ภูเก็ต เข็มที่1 89.6% เข็มที่2 86.9%
3. ปทุมธานี เข็มที่1 86.8% เข็มที่2 81.7%
4. ระนอง เข็มที่1 83.1% เข็มที่2 79.3%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 90.6% เข็มที่2 79.3%
6. ระยอง เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 79%
7. ชลบุรี เข็มที่1 81.7% เข็มที่2 77.9%
8. นนทบุรี เข็มที่1 81.2% เข็มที่2 77.7%
9. พังงา เข็มที่1 77.9% เข็มที่2 75.8%
10. นครปฐม เข็มที่1 75.8% เข็มที่2 75.1%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 56.3% เข็มที่2 43.1%
2. นราธิวาส เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 44.4%
3. ปัตตานี เข็มที่1 55.9% เข็มที่2 45%
4. ตาก เข็มที่1 56.9% เข็มที่2 47.6%
5. ยะลา เข็มที่1 62.3% เข็มที่2 52.1%
6. กาญจนบุรี เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 53.3%
7. ลพบุรี เข็มที่1 57.7% เข็มที่2 53.7%
8. บึงกาฬ เข็มที่1 62.7% เข็มที่2 54.7%
9. หนองบัวลำภู เข็มที่1 62.1% เข็มที่2 56.1%
10. สกลนคร เข็มที่1 64.1% เข็มที่2 56.6%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 899,159,119 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 316,768,118 โดส (66.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 180,366,266 โดส (81%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 126,164,109 โดส (54.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 114,956,275 โดส (79%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 63,384,672 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 40,953,452 โดส (40.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 34,150,992 โดส (84.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,684,264 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,765,840 โดส (64.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 965,131 โดส (94.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
5. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.59%
2. ยุโรป 10.41%
3. อเมริกาเหนือ 8.79%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.09%
5. แอฟริกา 3.52%
6. โอเชียเนีย 0.61%
6. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,989.48 ล้านโดส (211.4% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,695.49 ล้านโดส (123%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 538.09 ล้านโดส (160.5%)
4. บราซิล จำนวน 360.49ล้านโดส (170.2%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 316.77 ล้านโดส (114.8%)
7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (299.7%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (253.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (239.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. บาห์เรน (227.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. เดนมาร์ก (224.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
6. เกาหลีใต้ (223%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. มัลดีฟส์ (219.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
8. บรูไน (218.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
9. สิงคโปร์ (215.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. จีน (215.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)