“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 27 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 113,622,267 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,007 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 886.2 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (111.1%)
➡️(27 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,007 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 536 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 211 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 886.2 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 309.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 27 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 113,622,267 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.72%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,007ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 27 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 113,622,267 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,174,471 โดส (78.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 48,355,039 โดส (73.1% ของประชากร)
-เข็มสาม 13,092,757 โดส (19.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-27 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 113,622,267 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 440,671 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 473,112 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,856,113 โดส
– เข็มที่ 2 3,579,890 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,676,212 โดส
– เข็มที่ 2 28,174,334 โดส
– เข็มที่ 3 3,864,815 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,497,307 โดส
– เข็มที่ 2 7,177,155 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,464,384 โดส
– เข็มที่ 2 8,680,185 โดส
– เข็มที่ 37,249,185 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 667,455 โดส
– เข็มที่ 2 743,475 โดส
– เข็มที่ 3 1,978,757 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.2% เข็มที่2 112% เข็มที่3 97.5%
– อสม เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 77.9% เข็มที่3 36%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.6% เข็มที่2 100% เข็มที่3 28.8%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88.3% เข็มที่2 81% เข็มที่3 22.6%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.8% เข็มที่2 61.2% เข็มที่3 15.7%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.6% เข็มที่2 69.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 75% เข็มที่2 69.5% เข็มที่3 18.8%
4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 111.1% เข็มที่2 103%
2. ภูเก็ต เข็มที่1 89.5% เข็มที่2 86.9%
3. ปทุมธานี เข็มที่1 86.6% เข็มที่2 81.5%
4. ระนอง เข็มที่1 83% เข็มที่2 79.1%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 90.3% เข็มที่2 78.9%
6. ระยอง เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 78.6%
7. ชลบุรี เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 77.5%
8. นนทบุรี เข็มที่1 80.9% เข็มที่2 77.5%
9. พังงา เข็มที่1 77.8% เข็มที่2 75.7%
10. นครปฐม เข็มที่1 75.6% เข็มที่2 74.8%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 41.5%
2. นราธิวาส เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 44.3%
3. ปัตตานี เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 44.9%
4. ตาก เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 46.9%
5. ยะลา เข็มที่1 62.3% เข็มที่2 52%
6. กาญจนบุรี เข็มที่1 55.9% เข็มที่2 52.9%
7. ลพบุรี เข็มที่1 57.5% เข็มที่2 53.4%
8. บึงกาฬ เข็มที่1 62.5% เข็มที่2 53.7%
9. หนองบัวลำภู เข็มที่1 61.9% เข็มที่2 54.9%
10. สกลนคร เข็มที่1 63.8% เข็มที่2 55.2%
5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 886,249,482 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 309,473,499 โดส (66.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 178,818,612 โดส (80.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 125,089,117 โดส (54.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 113,622,267 โดส (78.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 62,892,195 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 40,437,126 โดส (40.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 33,554,563 โดส (84.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,684,264 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,731,669 โดส (64%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 946,170 โดส (94.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
6. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.71%
2. ยุโรป 10.35%
3. อเมริกาเหนือ 8.81%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5. แอฟริกา 3.51%
6. โอเชียเนีย 0.60%
7. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,978.65 ล้านโดส (210.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,679.34 ล้านโดส (121.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 536.35 ล้านโดส (160%)
4. บราซิล จำนวน 355.99 ล้านโดส (168.1%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 308.17 ล้านโดส (111.7%)
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (297.6%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (252.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (238.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (227.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. เกาหลีใต้ (220.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. มัลดีฟส์ (216.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
8. สิงคโปร์ (215.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
9. บรูไน (214.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
10. จีน (212.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)