“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 25 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 112,759,859 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,948 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 878.4 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (111%)
➡️(25 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,948 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 34.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 535 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 210 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 878.4 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 307.1 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 25 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 112,759,859 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.70%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,948 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 25 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 112,759,859 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,088,514 โดส (78.7% ของประชากร)
-เข็มสอง 48,208,002 โดส (72.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 12,463,343 โดส (18.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-25 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 112,759,859 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 288,356 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 459,673 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,855,699 โดส
– เข็มที่ 2 3,579,477 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,649,715 โดส
– เข็มที่ 2 28,145,490 โดส
– เข็มที่ 3 3,737,308 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,493,784 โดส
– เข็มที่ 2 7,172,830 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,422,019 โดส
– เข็มที่ 2 8,578,137 โดส
– เข็มที่ 3 6,826,981 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 667,297 โดส
– เข็มที่ 2 732,068 โดส
– เข็มที่ 3 1,899,054 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 114.3% เข็มที่2 112% เข็มที่3 97.2%
– อสม เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 77.8% เข็มที่3 34.8%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 105.5% เข็มที่2 99.8% เข็มที่3 27.2%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 88.2% เข็มที่2 80.7% เข็มที่3 21.5%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.7% เข็มที่2 60.9% เข็มที่3 14.7%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.5% เข็มที่2 69% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 74.9% เข็มที่2 69.3% เข็มที่3 17.9%
5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 111% เข็มที่2 102.9%
2. ภูเก็ต เข็มที่1 89.5% เข็มที่2 86.9%
3. ปทุมธานี เข็มที่1 86.5% เข็มที่2 81.5%
4. ระนอง เข็มที่1 82.9% เข็มที่2 79.1%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 90.2% เข็มที่2 78.8%
6. ระยอง เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 78.5%
7. ชลบุรี เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 77.5%
8. นนทบุรี เข็มที่1 80.9% เข็มที่2 77.4%
9. พังงา เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 75.7%
10. นครปฐม เข็มที่1 75.5% เข็มที่2 74.7%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 55.5% เข็มที่2 41.1%
2. นราธิวาส เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 44.3%
3. ปัตตานี เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 44.9%
4. ตาก เข็มที่1 56.1% เข็มที่2 46.7%
5. ยะลา เข็มที่1 62.3% เข็มที่2 51.9%
6. กาญจนบุรี เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 52.8%
7. ลพบุรี เข็มที่1 57.5% เข็มที่2 53.3%
8. บึงกาฬ เข็มที่1 62.5% เข็มที่2 53.4%
9. หนองบัวลำภู เข็มที่1 61.8% เข็มที่2 54.4%
10. สกลนคร เข็มที่1 63.8% เข็มที่2 55.1%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 878,439,017 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 307,120,862 โดส (66%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 176,429,307 โดส (80.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 123,866,249 โดส (54%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 112,759,859 โดส (78.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 62,461,606 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 40,001,409 โดส (39.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 33,736,133 โดส (84.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,444,673 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,662,749 โดส (63.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 946,170 โดส (94.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.67%
2. ยุโรป 10.36%
3. อเมริกาเหนือ 8.83%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5. แอฟริกา 3.52%
6. โอเชียเนีย 0.60%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,968.12 ล้านโดส (209.9% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,664.57 ล้านโดส (120.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 534.61 ล้านโดส (159.5%)
4. บราซิล จำนวน 352.95 ล้านโดส (166.7%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 307.13 ล้านโดส (111.3%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (296%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (251.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (237.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (226.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. เกาหลีใต้ (219.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. บรูไน (214.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
8. มัลดีฟส์ (214.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
9. สิงคโปร์ (211.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. จีน (209.9%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)