กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยิ้มหวานรับ ‘รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จาก สำนักงาน ป.ป.ช. โดยผ่านเกณฑ์การพิจารณา 4 ด้าน ตอกย้ำองค์กรให้บริการประชาชนที่ไร้การทุจริต สะท้อนความโปร่งใสของหน่วยงาน สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเรียกความมั่นใจจากนักลงทุนชาวต่างชาติ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเตรียมเข้ารับ ‘รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส’ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 (NACC Integrity Awards) โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็น 1 ใน 21 องค์กรจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนที่ได้รับรางวัลชมเชย ซึ่งจะเป็นเครื่องหมายการันตีเกียรติยศที่แสดงถึงความมีคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อตรงในการดำเนินงานขององค์กรที่เหมาะสมในการเป็นแบบอย่างที่ดี แก่สาธารณชน เพื่อสร้างค่านิยมการบริหารจัดการองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาล มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคมได้เป็นอย่างดี ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะยังคงเดินหน้าเพื่อคว้า ‘รางวัลองค์กรโปร่งใส’ มาไว้ในครอบครองให้ได้ในอนาคตอันใกล้นี้
สำหรับเกณฑ์การตัดสินที่ ป.ป.ช. ใช้ประกอบการพิจารณาแบ่งเป็น 4 ด้านคือ 1) องค์กรปฏิบัติภารกิจอย่างมีความพร้อมรับผิดชอบต่อผลงานและข้อร้องเรียน ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีมาตรการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนและผลกระทบที่เกิดจากการดำเนินงาน โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับปฏิบัติภารกิจอย่างระมัดระวัง คำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้รับบริการ โดยยึดหลักสิทธิทางกฎหมาย และความคาดหวังของสังคม มีการสร้างความสัมพันธ์และเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้รับบริการผ่านช่องทางที่หลากหลาย และมีนโยบายการกำกับองค์กรที่ดีเป็นแนวทางปฏิบัติให้บุคลากรยึดถือปฏิบัติได้อย่างชัดเจนภายใต้ค่านิยม “ยิ้มแย้ม โปร่งใส ใส่ใจบริการ” อีกทั้ง นำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่มาอำนวยความสะดวกเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการแก่ประชาชนและภาคธุรกิจ มุ่งลดความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานและป้องกันการทุจริต ได้แก่ การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration), การนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing), การเปิดเผยข้อมูลและให้บริการข้อมูลนิติบุคคลผ่านแอพพลิเคชั่น DBD e-Service, การขอหนังสือรับรองนิติบุคคลผ่านธนาคารพาณิชย์ (e-Certificate), การให้บริการออกหนังสือรับรองนิติบุคคลในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate File), การส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ (DBD e-Secured) และล่าสุดได้พัฒนาระบบคลังข้อมูลธุรกิจ สู่การเป็น Business DataWarehouse จนสามารถคว้ารางวัล ‘แชมเปี้ยน’ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลฯ (WSIS Project Prizes 2019) ขององค์การสหประชาชาติ และสหภาพโทรคมนาคมนานาชาติ และกำลังลุ้นรางวัล The Winner ที่จะประกาศผลในวันที่ 9 เมษายน ศกนี้ 2) องค์กรปฏิบัติภารกิจตามหลักนิติธรรม ซึ่งผู้บริหารกรมฯ ได้แสดงเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตพร้อมแสดงออกในเวทีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง การจัดทำตัวชี้วัดในระดับต่างๆ เพื่อเป็นเครื่องกำหนดทิศทางและการติดตามการดำเนินงานของบุคลากรในกรมฯ รวมถึงการสร้างความมีส่วนร่วมของคนในองค์กรให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและอยู่บนพื้นฐานของประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน 3) องค์กรให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรมที่เป็นสากล โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญและเคารพต่อสิทธิมนุษยชนปฏิบัติตามแนวทางจริยธรรม พร้อมนำหลักคุณธรรม จริยธรรมมาเป็นแนวทางในการตัดสินความถูกต้อง ซึ่งในฐานะหน่วยงานให้บริการด้านธุรกิจแก่ประชาชนได้ยึดหลักสิทธิมนุษยชนและให้บริการที่เสมอภาคไม่เลือกปฏิบัติ และส่งเสริมให้บุคลากรมีการพัฒนาตนเองผ่านหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพอยู่เสมอ และ 4) องค์กรดำเนินงานด้วยความโปร่งใส มีระบบการจัดซื้อจัดจ้างที่โปร่งใสเที่ยงธรรม ต่อต้านการทุจริต และการให้หรือรับสินบน บุคลากรทุกระดับของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ โดยยึดนโยบาย ‘No Gift’ เป็นหลักในการปฏิบัติงาน ตลอดจนกำกับดูแลการดำเนินงานให้เป็นไปตามภารกิจและมาตรฐานวิชาชีพ พร้อมเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการดำเนินงานตามโครงการ และกิจกรรมต่างๆ ของกรมฯ
“รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใสในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ที่กรมฯ ได้รับ และเป็น 1 ใน 2 หน่วยงานของกระทรวงพาณิชย์ (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ) ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ซึ่งรางวัล ที่ได้รับจะเป็นพลังสำคัญให้บุคลากรของกรมฯ มีขวัญและกำลังใจในการทำงานและมุ่งหวังผลสำเร็จที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป พร้อมที่จะเป็นองค์กรผู้นำด้านการให้บริการธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล โปร่งใสตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและเกิดภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาประชาชนและนักลงทุนต่างชาติสร้างความเชื่อมั่นในประเทศไทยต่อไป” อธิบดีกล่าวสรุป
*************************************
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า