หมอแนะใช้สมุนไพรไทยสร้างคุณภาพชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็ง

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสานแนะผู้ป่วยมะเร็งทุกชนิด ต้องดูแลสุขภาพแบบองค์รวม  เพื่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดี  มีความสุข

วันที่ 27 เม.ย. 2561 นายแพทย์วัฒนะ  พันธุ์ม่วง  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (ยศเส) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ให้สัมภาษณ์ว่า โรคมะเร็งความหมายในทางการแพทย์แผนปัจจุบันหมายถึง เนื้องอกชนิดร้าย  เกิดขึ้นจากการแบ่งตัวของเซลล์อย่างรวดเร็ว ควบคุมไม่ได้  แทรกไปตามเนื้อเยื่อข้างเคียง  สาเหตุเกิดจากสิ่งแวดล้อม จากพฤติกรรมเสี่ยง ซึ่งมาตรฐานการรักษา  ผู้ป่วยมะเร็ง ในแผนปัจจุบัน คือ การผ่าตัด  การให้เคมีบำบัด  และการใช้รังสีรักษา เป็นต้น บางครั้งอาจใช้ศาสตร์การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกร่วมรักษาได้  ในกรณีที่หมอแผนปัจจุบันให้ความเห็นชอบ

ในทางการแพทย์แผนไทย มะเร็ง หมายถึง โรคเรื้อรังกลุ่มหนึ่ง ผู้ป่วยมักมีแผล ผื่น ตุ่ม ก้อน เกิดขึ้นตามร่างกาย การแพทย์แผนไทยเน้นในเรื่องของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม มุ่งรักษาคนเป็นหลัก เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตไม่ใช่รักษาตัวโรคอย่างเดียว เป็นการรักษาดูแลผู้ป่วยทั้งด้านร่างกาย จิตใจ ครอบครัว สังคม และให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี  เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี  ผู้ป่วยสามารถกินได้  นอนหลับ ขับถ่ายสะดวก  สุขภาพจิตดี  อยู่กับสังคมและโรคมะเร็งได้อย่างมีความสุข

ส่วนการใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งมีหลายชนิดทั้งยาตำรับและสมุนไพรเดี่ยว เช่น ยาเบญจอำมฤตย์ ยาเอ็นศูนย์สี่ศูนย์ (N040) ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยในผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังใช้สมุนไพรสำหรับการรักษาแบบประคับประคอง ลดความทุกข์ทรมานต่าง ลดอาการข้างเคียงจากการรักษาแผนปัจจุบัน เช่น ยาขิงหรือชาชงขิงลดอาการคลื่นไส้อาเจียน มะระจีน มะระขี้นก ยอดหรือดอกสะเดา หรือแกงขี้เหล็กเป็นอาหารรสขมช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร  ยาหอมสุขไสยาสน์ หรือยาหอมตำรับอินทจักร์ช่วยให้นอนหลับ  หรือกรณีที่มีแผลจากรังสีรักษา ใช้เจลว่านหางจระเข้  ครีมบัวบก ครีมหรือเจลพญายอช่วยรักษาแผลและบรรเทาอาการอักเสบ งดของแสลงต่าง ๆ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง ห้ามสูบบุหรี่  ส่วนการบำรุงรักษาร่างกายให้แข็งแรงนั้น ควรบริโภคอาหารให้ครบห้าหมู่ กินผักพื้นบ้าน อาหารเป็นยา ใช้สมาธิบำบัดเพื่อช่วยรักษาทางจิตใจ และการออกกำลังกายที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ยาแผนไทยหรือสมุนไพรอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจใช้ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน คือ ยาแก้น้ำเหลืองเสีย ซึ่งมีผลช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพราะเมื่อใช้ยาคีโมจะมีผลข้างเคียงทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวในระบบภูมิคุ้มกันถูกทำลายไปด้วย ทำให้ภูมิต้านทานลดลง มีผลให้ติดเชื้อโรคต่าง ๆ ง่ายขึ้น เช่น ยาแคปซูลหรือยาชงหญ้าปักกิ่งเป็นยาแก้น้ำเหลืองเสียที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ยาไฟโตเพล็กซ์ขององค์การเภสัชกรรม  นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ เช่น เห็ดหลินจือ มีสารเบต้ากลูแคน ที่มีฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน (เอ็นเคเซลล์) ที่ฆ่าเซลล์มะเร็งได้ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้วิจัยในหลอดทดลองพบว่า เจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์ และเถาวัลย์เปรียงเพิ่มฤทธิ์ของเอ็นเคเซลล์ได้

ดังนั้น เมื่อตรวจพบเป็นมะเร็งระยะเริ่มแรก ควรบำบัดรักษาด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในการรักษา  และสามารถเลือกใช้สมุนไพรเพื่อช่วยบรรเทาอาการข้างเคียงได้  ส่วนกรณีผู้ป่วยระยะสุดท้ายนั้น การรักษาด้วยการแพทย์แผนไทยควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ป่วย แต่ต้องปรึกษาแพทย์ผู้ให้การรักษาก่อน