“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 21 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 111,323,026 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,848 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 865.8 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (121.1%)
➡️(21 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,848 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 530 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 210 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 865.8 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 303.1 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 21 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 111,323,026 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.68%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,848 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 21 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 111,323,026 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,968,988 โดส (78.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 47,945,145 โดส (72.4% ของประชากร)
-เข็มสาม 11,408,893โดส (17.2% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-21 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 111,323,026 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 523,090 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 429,868 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,850,160 โดส
– เข็มที่ 2 3,578,621 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,609,714 โดส
– เข็มที่ 2 28,101,539 โดส
– เข็มที่ 3 3,532,541 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,487,965 โดส
– เข็มที่ 2 7,166,597 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,370,872 โดส
– เข็มที่ 2 8,395,633 โดส
– เข็มที่ 3 6,142,558 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 650,277 โดส
– เข็มที่ 2 702,755 โดส
– เข็มที่ 3 1,733,794 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 102.8%
– อสม เข็มที่1 79% เข็มที่2 76.8% เข็มที่3 32.6%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.4% เข็มที่2 74% เข็มที่3 18.4%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 69.2% เข็มที่3 63.2% เข็มที่3 15.5%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.4% เข็มที่2 70.5% เข็มที่3 15.4%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75.4% เข็มที่2 72.6% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 72.1% เข็มที่2 66.6% เข็มที่3 15.8%
5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 121.1% เข็มที่2 112.3%
2. ชลบุรี เข็มที่1 94.4% เข็มที่2 89.8%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 90.7% เข็มที่2 87.4%
4. สมุทรสาคร เข็มที่1 95.9% เข็มที่2 87.3%
5. ภูเก็ต เข็มที่1 88% เข็มที่2 85.5%
6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.7% เข็มที่2 79.7%
7. ระนอง เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 79.7%
8. ระยอง เข็มที่1 79.1% เข็มที่2 75.4%
9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 88.4% เข็มที่2 75.3%
10. สมุทรปราการ เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 73.5%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. ปัตตานี เข็มที่1 53.9% เข็มที่2 43.3%
2. นราธิวาส เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 43.4%
3. หนองบัวลำภู เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 45.3%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 54.8% เข็มที่2 46.2%
5. สกลนคร เข็มที่1 56% เข็มที่2 47.9%
6. สุรินทร์ เข็มที่1 52.6% เข็มที่2 48.1%
7. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 66.3% เข็มที่2 48.2%
8. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 55% เข็มที่2 49.1%
9. ศรีสะเกษ เข็มที่1 55.3% เข็มที่2 49.2%
10. ร้อยเอ็ด เข็มที่1 54.5% เข็มที่2 49.9%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 865,876,090 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 303,188,927 โดส (65.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 172,714,400 โดส (80.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 122,313,496 โดส (53.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 111,323,026 โดส (78.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 61,778,396 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 38,483,555 โดส (39.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 33,127,867 โดส (84.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,444,673 โดส (90%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,555,580 โดส (63.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 946,170 โดส (94.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.74%
2. ยุโรป 10.38%
3. อเมริกาเหนือ 8.82%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5. แอฟริกา 3.45%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,951.85 ล้านโดส (208.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,635.63 ล้านโดส (118.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 530.43 ล้านโดส (158.2%)
4. บราซิล จำนวน 349.50 ล้านโดส (165%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 303.19 ล้านโดส (109.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (291.3%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (250%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (236.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (225.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. เกาหลีใต้ (217.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. บรูไน (214.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
8. มัลดีฟส์ (212.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
9. สิงคโปร์ (211.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
10. จีน (208.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)