“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 18 มกราคม 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 109,828,653 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,771 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 851.6 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120.9%)
➡️(18 มกราคม 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,771 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 527 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 209 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 851.6 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 298.7 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 18 มกราคม 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 109,828,653 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 64.67%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9,771 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 18 มกราคม 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 109,828,653 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,834,424 โดส (78.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 47,637,067 โดส (72% ของประชากร)
-เข็มสาม 10,357,162 โดส (15.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-17 ม.ค. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 109,828,653 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 286,508 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 438,565 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,843,640 โดส
– เข็มที่ 2 3,577,966 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,572,831 โดส
– เข็มที่ 2 28,056,734 โดส
– เข็มที่ 3 3,358,729 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,481,715 โดส
– เข็มที่ 2 7,156,279 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 7,302,934 โดส
– เข็มที่ 2 8,181,081 โดส
– เข็มที่ 3 5,404,126 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 633,304 โดส
– เข็มที่ 2 665,007 โดส
– เข็มที่ 3 1,594,307 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 121.7% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 102%
– อสม เข็มที่1 79% เข็มที่2 76.7% เข็มที่3 30.5%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 78.2% เข็มที่2 73.6% เข็มที่3 16.4%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 69% เข็มที่3 62.7% เข็มที่3 14%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.2% เข็มที่2 70% เข็มที่3 13.4%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 75.2% เข็มที่2 72.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 72% เข็มที่2 66.1% เข็มที่3 14.4%
5. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120.9% เข็มที่2 112%
2. ชลบุรี เข็มที่1 94.2% เข็มที่2 89.4%
3. สมุทรสาคร เข็มที่1 95.6% เข็มที่2 86.8%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 90.4% เข็มที่2 86.7%
5. ภูเก็ต เข็มที่1 87.9% เข็มที่2 85.5%
6. ปทุมธานี เข็มที่1 84.5% เข็มที่2 79.5%
7. ระนอง เข็มที่1 83.5% เข็มที่2 79.1%
8. ระยอง เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 75.1%
9. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 88.1% เข็มที่2 74.9%
10. สมุทรปราการ เข็มที่1 84% เข็มที่2 73.2%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. ปัตตานี เข็มที่1 53.8% เข็มที่2 43.2%
2. นราธิวาส เข็มที่1 53.7% เข็มที่2 43.3%
3. หนองบัวลำภู เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 44.2%
4. บึงกาฬ เข็มที่1 54.7% เข็มที่2 45.3%
5. สกลนคร เข็มที่1 55.7% เข็มที่2 47.1%
6. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 65.8% เข็มที่2 47.1%
7. สุรินทร์ เข็มที่1 52.4% เข็มที่2 47.6%
8. ศรีสะเกษ เข็มที่1 55% เข็มที่2 48.6%
9. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 48.7%
10. มหาสารคาม เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 49.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 851,661,635 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 298,719,609 โดส (64.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 168,960,116 โดส (80.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 119,746,232 โดส (53.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 109,828,653 โดส (78.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 61,135,763 โดส (79.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 38,919,898 โดส (39%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 32,807,274 โดส (84.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 12,132,375 โดส (89%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,488,765 โดส (63.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 922,950 โดส (94.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.76%
2. ยุโรป 10.37%
3. อเมริกาเหนือ 8.79%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.02%
5. แอฟริกา 3.48%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,942.11ล้านโดส (208% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,616.52 ล้านโดส (117.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 526.9 ล้านโดส (157.2%)
4. บราซิล จำนวน 347.33ล้านโดส (164%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 298.72 ล้านโดส (108.3%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (289.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (249%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (234.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. เดนมาร์ก (232.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
5. บาห์เรน (225%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. เกาหลีใต้ (216%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. มัลดีฟส์ (211.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
8. บรูไน (209.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
9. จีน (208%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
10. สิงคโปร์ (206.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)