กระทรวงสาธารณสุข เผยไทยได้รับการชื่นชมเป็นผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนากำลังคนเฝ้าระวังโรคติดต่อและการพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการระดับชาติ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมพัฒนากำลังคนด้านการเฝ้าระวังโรคติดต่อในเดือนมีนาคม 2562 นี้ เพื่อร่วมสร้างความมั่นคงทางสุขภาพโลก
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศไทยเข้าร่วมการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก (Global Health Security Agenda Steering Group Meeting) ณ กระทรวงสุขภาพ สวัสดิการและการกีฬา กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ว่า ประเทศไทยเป็นสมาชิกถาวรของคณะทำงานขับเคลื่อนวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณาวาระสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ร่างแผนการดำเนินงาน 5 ปีของวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก ค.ศ. 2019-2024(Global Health Security Agenda 2024 Roadmap: GHSA 2024)ซึ่งเป็นแผนกำหนดทิศทางการดำเนินงานที่มุ่งให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยกระดับการทำงานของวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลกให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น และ2.หารือการจัดประชุมระดมเงินทุนเพื่อเสริมสร้างการเฝ้าระวังโรค(Financing on preparedness)ที่มีแผนจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2562 ที่ ธนาคารโลก กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา
นายแพทย์ศุภกิจกล่าวต่อว่า ปัญหาสุขภาพเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกประเทศให้ความสนใจ เนื่องจากมีผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ต่อเศรษฐกิจและสังคม องค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิกได้เรียกร้องให้ทุกประเทศทั่วโลกร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพโลก ซึ่งสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรกว่า 30 ประเทศรวมทั้งไทย ได้ร่วมกันตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก เริ่มดำเนินการปี ค.ศ. 2014 ภายหลังการระบาดของไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก เพื่อยกระดับการเฝ้าระวังโรคระบาดให้เข้มแข็งผ่านยุทธศาสตร์การป้องกัน การเฝ้าระวังและตอบโต้ที่มีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 50 ประเทศ
ในส่วนของประเทศไทยไทย รัฐบาลให้ความสำคัญและร่วมมืออย่างเต็มที่ ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมดำเนินงานสร้างความมั่นคงทางสุขภาพโลกมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย จัดทำแนวทางการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิก ซึ่งประเทศไทยมีบทบาทที่เข้มแข็งและเป็นที่ชื่นชมของประเทศสมาชิกใน 2 ด้าน คือ การพัฒนากำลังคนด้านการเฝ้าระวังโรคติดต่อและการพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการระดับชาติ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่สนับสนุนการป้องกันเชื้อดื้อยา โดยได้รับการไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพการประชุมด้านการพัฒนากำลังคนด้านการเฝ้าระวังโรคติดต่อระหว่าง 13-15 มีนาคม 2562 นี้ และได้เชิญชวนให้ประเทศสมาชิกเข้าร่วมประชุมหารือยกระดับการพัฒนาศักยภาพกำลังคนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป
**************************************