ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เผย หลังปีใหม่เริ่มพบสัญญาณผู้ติดเชื้อโควิด 19 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามการคาดการณ์ แนะประชาชนที่กลับจากการเดินทางช่วงปีใหม่สังเกตอาการตนเอง 14 วัน เน้นทำงานที่บ้าน และตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน พร้อมให้ทุกจังหวัดเตรียมระบบ HI/CI รองรับ ย้ำการฉีดวัคซีน เข้มป้องกันตนเองสูงสุด งดไปสถานที่เสี่ยง ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทยวันที่ 5 มกราคม 2565 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,899 ราย รักษาหาย 2,508 ราย และเสียชีวิต 19 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 34,877 ราย จำนวนนี้เป็นผู้ป่วยปอดอักเสบ 541 ราย และใส่เครื่องช่วยหายใจ 149 ราย พบผู้ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ 169 ราย สำหรับการติดเชื้อภายในประเทศพบลักษณะเป็นกลุ่มก้อน โดยเฉพาะร้านอาหารกึ่งผับ ร้านหมูกระทะ และสถานบันเทิง ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting ในหลายจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา อุบลราชธานี ขอนแก่น ชลบุรี มหาสารคาม และอุดรธานี นอกจากนี้ ยังพบการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับตลาด เรือนจำ โรงงาน สถานประกอบการ ถนนคนเดิน แคมป์คนงาน งานศพ งานแต่ง และงานเลี้ยงปีใหม่
ทั้งนี้ ช่วงหลังเทศกาลปีใหม่สถานการณ์เริ่มเป็นไปตามที่คาดการณ์ คือ ผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตลดลงแต่พบสัญญาณผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวและจังหวัดที่มีผู้เดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก จึงขอให้ประชาชนที่กลับจากการเดินทางช่วงปีใหม่เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง 14 วัน ขอให้หน่วยงานและสถานประกอบการต่าง ๆ เน้นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ในสัปดาห์แรก พร้อมตรวจ ATKอย่างน้อย 2 ครั้ง ห่างกัน 3 วัน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะนานเกิน 4 ชั่วโมง หรือไปในสถานที่ที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมากและงดการรวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกัน
นพ.เกียรติภูมิกล่าวต่อว่า ได้ประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิโอกับนายแพทย์สาธารณสุขทุกจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้เตรียมความพร้อมรับผู้ป่วยทั้งเตียง ยาและเวชภัณฑ์ และจัดระบบการรักษาที่บ้านหรือชุมชน (Home Isolation : HI / Community Isolation : CI) ไว้รองรับผู้ป่วยซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีอาการหรือมีอาการน้อย ขณะเดียวกันให้ขยายบริการฉีดวัคซีนทั้งแบบ walk in และจัดบริการเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้รับวัคซีนมากที่สุด ขอให้ประชาชนมารับวัคซีน ทั้งผู้ที่ยังไม่เคยได้รับ และผู้ที่ถึงเวลารับเข็มกระตุ้นตามที่กำหนด โดยติดต่อสอบถามสถานบริการของรัฐใกล้บ้านได้ และใช้มาตรการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด โดยเฉพาะการสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือ และเว้นระยะห่าง รวมถึงงดไปสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อ ซึ่งหากพบสถานที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการขอให้แจ้งฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
************************************** 5 มกราคม 2565