“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 103,439,403 โดส และทั่วโลกแล้ว 9,059 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 771.7 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120%)
➡️(29 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 9,059 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 505 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 205 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 771.7 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 271.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 103,439,403 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.98%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 9.059 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 29 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 103,439,403 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 51,138,178 โดส (77.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 45,743,122 โดส (69.1% ของประชากร)
-เข็มสาม 6,558,103 โดส (9.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-29 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 103,439,403 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 464,144 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 403,361 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,810,068 โดส
– เข็มที่ 2 3,574,782โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,418,632 โดส
– เข็มที่ 2 27,833,438โดส
– เข็มที่ 3 2,846,774 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,449,185โดส
– เข็มที่ 2 7,087,538 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 6,865,063 โดส
– เข็มที่ 2 6,808,690 โดส
– เข็มที่ 3 2,564,843 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 95,230 โดส
– เข็มที่ 2 438,674 โดส
– เข็มที่ 3 1,146,486 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122% เข็มที่2 119.2% เข็มที่3 97.6%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 62.3% เข็มที่3 25.5%
– อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 75.7% เข็มที่3 22.4%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.6% เข็มที่2 71.3% เข็มที่3 9%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่3 60.4% เข็มที่3 8.6%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 75.1% เข็มที่ 67% เข็มที่3 5.5%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 20.9% เข็มที่ 17.4% เข็มที่3 0.8%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 70.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 71% เข็มที่2 63.5% เข็มที่3 9.2%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120% เข็มที่2 110.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 75.6%
2. ชลบุรี เข็มที่1 93.1% เข็มที่2 87.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.7% เข็มที่2 76.6%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 89.4% เข็มที่2 82.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.8% เข็มที่2 88%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.6% เข็มที่2 84.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 72.3%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 83.3% เข็มที่2 71.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.5% เข็มที่2 88.9%
6. ระนอง เข็มที่1 82% เข็มที่2 75.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.4% เข็มที่2 74.8%
7. ระยอง เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 72.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 67.2%
8. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 75% เข็มที่2 66.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 87.3% เข็มที่2 79.6%
9. พังงา เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 72.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.% เข็มที่2 74.4%
10. กระบี่ เข็มที่1 71.3% เข็มที่2 66.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 75.5%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 70.6% เข็มที่2 65.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 69%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 62.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.2% เข็มที่2 64.2%
13. ตราด เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 62.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 66%
14. เลย เข็มที่1 61.6% เข็มที่2 53.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.6% เข็มที่2 68.5%
15. บุรีรัมย์ เข็มที่1 61.1% เข็มที่2 54.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.7% เข็มที่2 72.6%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.6% เข็มที่2 53.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.8% เข็มที่2 76.7%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.6% เข็มที่2 48.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.1% เข็มที่2 64.8%
รวม เข็มที่1 91% เข็มที่2 83% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.3% เข็มที่2 76.1%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 771,767,720 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 271,240,030 (57.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 147,271,054 โดส (79.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 107,277,506 โดส (51.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 103,439,403 โดส (77.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 57,112,144 โดส (79.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 35,074,458 โดส (37.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 31,389,351 โดส (84.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (88%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 8,056,658 โดส (61.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 823,787 โดส (94.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.47%
2. ยุโรป 10.45%
3. อเมริกาเหนือ 9.02%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.10%
5. แอฟริกา 3.37%
6. โอเชียเนีย 0.58%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,781.87 ล้านโดส (198.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,431.86ล้านโดส (104.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 505.01 ล้านโดส (152.1%)
4. บราซิล จำนวน 329.01 ล้านโดส (156.6%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 271.24 ล้านโดส (98.3%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (264.2%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (227.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. บาห์เรน (215.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. มัลดีฟส์ (211.7% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (209.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. เดนมาร์ก (203%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
7. จีน (198.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
8. อุรุกวัย (197.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. สหราชอาณาจักร (197.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
10. เกาหลีใต้ (195.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)