“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 102,172,113 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,918 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 758.4 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (120%)
➡️(25 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,918 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 43.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 500 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 205 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 758.4 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.4% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 266.5 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 102,172,113 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.97%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,918 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 25 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 102,172,113 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 50,951,100 โดส (77% ของประชากร)
-เข็มสอง 45,231,374 โดส (68.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 5,989,639 โดส (9¬% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-25 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 102,172,113 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 562,254 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 398,124 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,799,194 โดส
– เข็มที่ 2 3,573,130 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,381,137 โดส
– เข็มที่ 2 27,775,155 โดส
– เข็มที่ 3 2,777,594 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,439,556 โดส
– เข็มที่ 2 7,065,167 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 6,755,435 โดส
– เข็มที่ 2 6,465,792 โดส
– เข็มที่ 3 2,205,399 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 575,778โดส
– เข็มที่ 2 352,130 โดส
– เข็มที่ 3 1,006,646 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122% เข็มที่2 119.1% เข็มที่3 96.8%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 62.2% เข็มที่3 24.5%
– อสม เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 75.5% เข็มที่3 21.1%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.3% เข็มที่2 70.7% เข็มที่3 7.9%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.4% เข็มที่3 59.6% เข็มที่3 7.9%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 74.8% เข็มที่ 66.3% เข็มที่3 4.5%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 20.6% เข็มที่ 16.9% เข็มที่3 0.7%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74.1% เข็มที่2 69.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 70.7% เข็มที่2 62.8% เข็มที่3 8.3%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120% เข็มที่2 109.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 75.3%
2. ชลบุรี เข็มที่1 92.9% เข็มที่2 86.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.6% เข็มที่2 76.3%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 89.1% เข็มที่2 80.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.6% เข็มที่2 86.3%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.5% เข็มที่2 84.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.5% เข็มที่2 72.2%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 83.1% เข็มที่2 71.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.4% เข็มที่2 88.5%
6. ระนอง เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 74.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.3% เข็มที่2 74.5%
7. ระยอง เข็มที่1 77.5% เข็มที่2 71.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70% เข็มที่2 66.8%
8. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 74.8% เข็มที่2 65.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.9% เข็มที่2 77.5%
9. พังงา เข็มที่1 74.5% เข็มที่2 72.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.7% เข็มที่2 74.1%
10. กระบี่ เข็มที่1 71.1% เข็มที่2 66.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.8% เข็มที่2 75.3%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 70.3% เข็มที่2 64.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.3% เข็มที่2 68.3%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 69.9% เข็มที่2 62.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.8% เข็มที่2 63.9%
13. ตราด เข็มที่1 66.7% เข็มที่2 62.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 65.8%
14. เลย เข็มที่1 61.1% เข็มที่2 52.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78% เข็มที่2 67.4%
15. บุรีรัมย์ เข็มที่1 61% เข็มที่2 54.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.6% เข็มที่2 72.1%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.4% เข็มที่2 52.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.5% เข็มที่2 75.7%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.5% เข็มที่2 48.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.1% เข็มที่2 64.5%
รวม เข็มที่1 90.8% เข็มที่2 82.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83% เข็มที่2 75.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 758,419,937 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 266,589,872 (56.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 143,520,464 โดส (78.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 105,329,784 โดส (51.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 102,172,113 โดส (77%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 56,720,268 โดส (79.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 34,227,534 โดส (36.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 31,192,356 โดส (84.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (88%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,793.711 โดส (60%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 790,506 โดส (94.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.19%
2. ยุโรป 10.53%
3. อเมริกาเหนือ 9.09%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.17%
5. แอฟริกา 3.44%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,719.46 ล้านโดส (194.2% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,409.72 ล้านโดส (103.1%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 500.22 ล้านโดส (150.7%)
4. บราซิล จำนวน 328.47 ล้านโดส (156.3%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 266.59ล้านโดส (96.6%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (260%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (226.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (212.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. บาห์เรน (211.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (208.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. เดนมาร์ก (200.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
7. อุรุกวัย (196.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. สหราชอาณาจักร (195.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
9. จีน (194.2%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
10. เกาหลีใต้ (191.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)