“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 101,609,859 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,894 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 754 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (119.9%)
➡️(24 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,894 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 42.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 500 ล้านโด ส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 205 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 754 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.4% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 264.3 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 101,609,859 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.96%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,894 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 101,079,615 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 50,861,722 โดส (76.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 45,016,506 โดส (68% ของประชากร)
-เข็มสาม 5,731,631 โดส (8.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-24 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 101,609,859 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 530,244 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 393,283 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,794,441 โดส
– เข็มที่ 2 3,572,531 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,363,796 โดส
– เข็มที่ 2 27,746,702 โดส
– เข็มที่ 3 2,747,531 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,434,863 โดส
– เข็มที่ 2 7,055,292 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 6,701,509 โดส
– เข็มที่ 2 6,312,962 โดส
– เข็มที่ 3 2,044,417 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 567,113 โดส
– เข็มที่ 2 329,019 โดส
– เข็มที่ 3 939,683 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122% เข็มที่2 119.1% เข็มที่3 96.5%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 62.2% เข็มที่3 23.9%
– อสม เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 75.4% เข็มที่3 20.5%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77.2% เข็มทเข็มที่2 70.4% เข็มที่3 7.5%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 68.3% เข็มที่3 59.3% เข็มที่3 7.5%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 74.6% เข็มที่ 66% เข็มที่3 4%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 20.5% เข็มที่ 16.8% เข็มที่3 0.6%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 74% เข็มที่2 69% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 70.6% เข็มที่2 62.5% เข็มที่3 8%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 120% เข็มที่2 108.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 75.2%
2. ชลบุรี เข็มที่1 92.8% เข็มที่2 86.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.5% เข็มที่2 76.2%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 89% เข็มที่2 80.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.4% เข็มที่2 85.6%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.5% เข็มที่2 84.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.5% เข็มที่2 72%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 82.9% เข็มที่2 70.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.3% เข็มที่2 88.2%
6. ระนอง เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 74.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.7% เข็มที่2 73.9%
7. ระยอง เข็มที่1 77.4% เข็มที่2 71.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.3% เข็มที่2 74.4%
8. พังงา เข็มที่1 74.5% เข็มที่2 72% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70% เข็มที่2 66.6%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 74.4% เข็มที่2 65.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.6% เข็มที่2 77.1%
10. กระบี่ เข็มที่1 71% เข็มที่2 65.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.7% เข็มที่2 75%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 64.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73% เข็มที่2 67.9%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 69.5% เข็มที่2 61.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.4% เข็มที่2 63.6%
13. ตราด เข็มที่1 66.6% เข็มที่2 62.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.7% เข็มที่2 66%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 60.8% เข็มที่2 54.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.3% เข็มที่2 71.8%
15. เลย เข็มที่1 60.8% เข็มที่2 51.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.5% เข็มที่2 66.9%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.3% เข็มที่2 51.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 75.3%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.4% เข็มที่2 48.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71% เข็มที่2 64.3%
รวม เข็มที่1 90.6% เข็มที่2 81.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.9% เข็มที่2 75.2%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 754,002,497 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 264,327,074 (56.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 142,342,501 โดส (78.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 105,118,508 โดส (51.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 101,609,859 โดส (76.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 56,576,586 โดส (79.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 34,227,534 โดส (36.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 31,132,889 โดส (84.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,793.711 โดส (60%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 790,506 โดส (94.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.26%
2. ยุโรป 10.54%
3. อเมริกาเหนือ 9.10%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.18%
5. แอฟริกา 3.33%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,719.46 ล้านโดส (194.2% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,403.41 ล้านโดส (102.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 500.22ล้านโดส (150.7%)
4. บราซิล จำนวน 327.56 ล้านโดส (155.9%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 264.33 ล้านโดส (95.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (259.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (226.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (212.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. บาห์เรน (211.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (208.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. อุรุกวัย (198.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. เดนมาร์ก (196.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
8. สหราชอาณาจักร (195.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
9. จีน (194.2%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
10. เกาหลีใต้ (189.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)