รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานลงนามความร่วมมือสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและทำงานได้ โดยกรมการขนส่งทางบกเปิดรับคำขอผู้พิการ ตรวจสอบคุณสมบัติ ส่งรายชื่อและงบประมาณ ให้สถาบันสิรินธรฯ กรมการแพทย์ และโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการต่อไป
วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่กระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ระหว่างกรมการขนส่งทางบก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และกรมการแพทย์ โดยมีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นผู้ลงนาม
นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ สร้างความเสมอภาคและเท่าเทียม โดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการ เพื่อให้เข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และได้รับการพัฒนาศักยภาพ ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงมียุทธศาสตร์การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยการสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมและเหมาะสมกับคนทุกช่วงวัย ทุกเพศภาวะ และทุกกลุ่ม สนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตสำหรับคนทุกกลุ่ม นอกจากนี้ ยังพัฒนาระบบบริการสุขภาพเพื่อให้ผู้พิการเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง รวดเร็ว และมีคุณภาพ ทั้งนี้ การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ซึ่งคณะกรรมการกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม มีมติให้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการจากการประสบอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตประจำวันและประกอบอาชีพได้ใกล้เคียงกับบุคคลทั่วไป
นพ.ธงชัยกล่าวว่า บันทึกข้อตกลงดังกล่าว กรมการขนส่งทางบกจะประกาศเปิดรับคำขอของผู้พิการที่ต้องการรับการจัดสรรเงินค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือ โดยผู้พิการสามารถยื่นแบบคำขอและเอกสารต่างๆ ที่สำนักมาตรฐานงานทะเบียนและภาษีรถ หรือสำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติผู้พิการตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแล้ว จะส่งรายชื่อผู้พิการ เอกสารที่เกี่ยวข้อง พร้อมโอนเงินในการจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการให้แก่สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ หรือโรงพยาบาลที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขกำหนด ส่วนสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขและกรมการแพทย์จะทำบัญชีรายละเอียดคุณลักษณะและราคาอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ ตรวจสอบและพิจารณาอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับผู้พิการที่ยื่นคำขอ จัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ พร้อมส่งมอบอุปกรณ์ให้ผู้พิการ รายงานผลการใช้จ่ายเงิน เงินคงเหลือ และสรุปผลการดำเนินงานให้กรมการขนส่งทางบกทราบภายในวันที่ 31 กรกฎาคมของปีที่ได้รับการจัดสรร
นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ จะดำเนินการให้แก่ผู้พิการในเขต กทม. ส่วนโรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการให้แก่ผู้พิการในจังหวัดต่างๆ สำหรับบันทึกข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นต้นไป และมีการทบทวนการดำเนินการอย่างน้อยทุก 3 ปี นอกจากนี้ ทั้ง 3 หน่วยงานยังต้องร่วมกันพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นสำหรับการบริการผู้พิการให้สะดวกรวดเร็ว สนับสนุนและพัฒนาการจัดระบบบริการและวิชาการในการดำเนินการสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ