วันนี้ไทยเราจะแข่งขันได้ ต้องแข่งกันที่สมองซีกขวา ซึ่งเป็นโหมดของความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งนมแม่ มีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมองของลูกน้อยนับตั้งแต่น้ำนมหยดแรก
คุณ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี กล่าวตอนหนึ่งในการสัมมนา เรื่อง ” Inspired Leadership : ก้าวเป็นที่หนึ่งด้วยแรงบันดาลใจ”สมองของทารกแรกเกิดเริ่มพัฒนาจากสมองซีกขวา ธรรมชาติจึงทำให้แม่ในช่วงหลังคลอดใหม่ๆ มีสมองซีกขวาที่เด่นขึ้นเป็นการชั่วคราว เพื่อจะได้สื่อสารกับลูกรู้เรื่องธรรมชาติได้ให้นมแม่มาด้วย เพื่อพัฒนาสมองทั้งสองซีกของลูก เรามาช่วยกันให้เด็กไทยมีสมองที่พัฒนาได้เต็มตามศักยภาพ ด้วยนมแม่กันเถอะค่ะ
การให้นมแม่ช่วยพัฒนาสมองได้อย่างไร
สมองของทารกแรกเกิดมีขนาดเพียง ¼ ของสมองผู้ใหญ่เท่านั้น ทารกต้องการการเลี้ยงดูและสารอาหารที่เหมาะสมในช่วงอายุ 3 ปีแรก เพื่อให้สมองมีการเจริญพัฒนาเต็มที่ตามศักยภาพของแต่ละคนโครงสร้างสมองแบ่งเป็นส่วนๆตามการทำหน้าที่ สมองชั้นนอก สมองส่วนหน้า สมองส่วนหลัง สมองชั้นในและก้านสมอง เซลล์ประสาทในสมองจำนวนนับล้านล้านเซลล์มีการติดต่อสื่อสารส่งสัญญาณกัน ผ่านเส้นใยประสาท เกิดเป็นวงจรในสมองมากมาย นมแม่มีส่วนช่วยพัฒนาสมองลูก เพราะ
1.การอุ้มลูกขึ้นมาดูดนมแม่ทำให้ประสาทสัมผัสทุกส่วนของทารกได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงที่กินนมแม่
2.เมื่อแม่อุ้มลูกขึ้นดูดนนมแม่ มีการส่งสัญญาณประสาทที่ผิวหนัง ที่ดวงตา ที่หู ลิ้น ทุกส่วนล้วนสัมพันธ์กัน ทำให้ทารกมีปฏิกริยาสนองตอบ เกิดวงจรประสาทใหม่ๆขึ้นตลอดเวลา
3.สารอาหารในน้ำนมแม่มีส่วนช่วยสร้างเส้นใยประสาท เปรียบเทียบเส้นใยประสาทกับสายไฟฟ้า. สายไฟฟ้า จะมีฉนวนหุ้มอยู่ข้างนอกเพื่อให้ส่งไฟฟ้าได้ดี เส้นใยประสาทก็เช่นกันมีแผ่นไขมันหุ้มอยู่โดยรอบ เพื่อให้การส่งสัญญาณประสาทมีประสิทธิภาพ
สารอาหารในน้ำนมแม่นี่แหละที่ช่วยการสร้างแผ่นไขมันนี้ : Cholesterol. DHA และไขมันอื่นๆช่วยกันสร้างแผ่นไขมัน (myelin sheath) Sialic acid ในรูปของganglioside พบสูงมากที่บริเวณเชื่มต่อของปลายประสาท น้ำนมแม่มีกรดSialic สูงถึง 0.3-1.5mg/ml Taurine. เป็นกรดอะมิโนอิสระที่พบมากที่สุดในน้ำนมแม่ ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ประสาท ช่วยฟื้นฟูจอประสาทตา
สารอาหารที่ยกมาเป็นตัวอย่างนี้เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังมีสารประกอบอีกมากมายในน้ำนมแม่ ที่ประสานการทำงาน และรวมพลังกัน ไม่ได้มีตัวใดตัวหนึ่งเป็นพระเอก ดังนั้น การที่นมผงกล่าวว่า ได้เติมสารนั้นนี้ตามที่มีในน้ำนมแม่ ก็ไม่ได้แปลว่า สารเหล่านั้นจะทำงานได้เหมือนในน้ำนมแม่ เพราะ ขาดส่วนประกอบอื่นอีกมากมายที่จะมาทำงานด้วยกัน เรื่องนมแม่ ไม่มีใครเป็นฮีโร่เพียงคนเดียวค่ะ เราช่วยเหลือ ร่วมกันทำงาน จึงเกิดเป็นพลังขึ้นมาได้ สารอาหาร และส่วนประกอบในน้ำนมแม่ ต่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกันจนเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกของเรา
****************************************************
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : https://www.thaihealth.or.th