กรมอนามัย ห่วงฝุ่น PM2.5 บุกกรุง แนะเช็คค่าฝุ่นก่อนออกจากบ้าน สวมหน้ากากอนามัยป้องกัน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข คาดแนวโน้มสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มสูงขึ้น แนะตรวจเช็คคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน หากมีความเสี่ยงให้ป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัย งดกิจกรรมกลางแจ้ง

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 สัปดาห์นี้ ตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 เป็นต้นมา มีค่าเกินมาตรฐานในทุกพื้นที่ โดยพบค่าสูงสุดในพื้นที่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ 102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบ ต่อสุขภาพ (สีแดง) และคาดการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อาจเกิดการสะสมของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นไป จนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2564 เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิด สภาวะลมอ่อน การจราจร และการเผาในที่โล่ง ส่งผลให้ ในบางพื้นที่มีแนวโน้มเกินค่ามาตรฐาน อยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพได้ และในบางพื้นที่ อยู่ในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในโซนกรุงเทพเทพกลาง ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข และติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดก่อนออกจากบ้าน ด้วยการดูค่า PM2.5 หรือค่า AQI ได้ที่เว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th หรือแอปพลิเคชั่น “Air4Thai” ของกรมควบคุมมลพิษ โดยต้องแปลผลให้ถูกต้อง หากค่า PM2.5 อยู่ในช่วง 51–90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเท่ากับค่า AQI ที่ 101–200 ถือว่าอยู่ในระดับเกินมาตรฐานและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีส้ม) แต่หาก พบค่า PM2.5 ที่สูงกว่า 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขึ้นไป ซึ่งเทียบเท่า AQI ที่สูงกว่า 201 ขึ้นไป อยู่ในระดับ มีผลกระทบต่อสุขภาพ (สีแดง) ประชาชนควรปฏิบัติตนตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไป สิ่งที่ประชาชนต้องให้ความสำคัญคือ การประเมินตนเองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ อาทิ มีอาชีพอยู่กลางแจ้งต้องสัมผัสฝุ่นเป็นเวลานาน หรืออาศัยในพื้นที่เสี่ยง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด หากพบว่าเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยง ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่น ปิดประตูหน้าต่างให้สนิทในช่วงฝุ่นสูง งดกิจกรรมหรือออกกำลังกายอย่างหนักกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการไปในพื้นที่เสี่ยงฝุ่นสูง ถ้าจำเป็นต้องไปให้สวมหน้ากากอนามัย สำหรับกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ทำงานที่ต้องสัมผัสกับฝุ่นละออง ฟูมโลหะ สารเคมี รวมถึงอนุภาคประเภทที่มีพิษมาก ควรสวมหน้ากาก N95 และใส่ให้ถูกวิธี ที่สำคัญ คอยสังเกตอาการตนเอง และคนใกล้ชิด หากพบอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวีด แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น คลื่นไส้ เมื่อยล้าผิดปกติ หรือวิงเวียนศีรษะ ให้รีบไปพบแพทย์ โดยประเมินอาการ จากการรับสัมผัสฝุ่นละออง และพฤติกรรมการป้องกันฝุ่นละอองได้ที่ https://4health.anamai.moph.go.th/index หรือ LINE Official https://lin.ee/P63zRoP สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวควรเตรียมยา อุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

“ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงปัจจุบัน (วันที่ 23 ธันวาคม 2564) พบว่า มีปริมาณ PM2.5 ระหว่าง 9-102 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และภาพรวม เริ่มเกินค่ามาตรฐานในทุกภาคของประเทศไทย (สีส้ม) จำนวน 16 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี นครปฐม สมุทรสงคราม สระบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี ขอนแก่น ปราจีนบุรี ชลบุรี และ ระยอง” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

***
กรมอนามัย / 23 ธันวาคม 2564