“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 99,898,515 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,715 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 737.4 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (119.7%)
➡️(20 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,715 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 495 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 204 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 737.4 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 258.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 99,898,515 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.9%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,715 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 99,898,515 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 50,553,268 โดส (76.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 44,378,448 โดส (67.1% ของประชากร)
-เข็มสาม 4,966,799 โดส (7.5% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-20 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 99,898,515 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 136,992 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 356,468 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,775,622โดส
– เข็มที่ 2 3,570,571 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,306,202 โดส
– เข็มที่ 2 27,623,608 โดส
– เข็มที่ 3 2,668,495 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,413,601 โดส
– เข็มที่ 2 7,016,302 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 6,530,902 โดส
– เข็มที่ 2 5,894,635 โดส
– เข็มที่ 3 1,571,058 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 526,941 โดส
– เข็มที่ 2 273,332 โดส
– เข็มที่ 3 727,246 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.1% เข็มที่2 119.1% เข็มที่3 95.6%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 62.1% เข็มที่3 22.5%
– อสม เข็มที่1 78.7% เข็มที่2 75% เข็มที่3 18.8%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 76.9% เข็มทเข็มที่2 69.8% เข็มที่3 6.1%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 67.8% เข็มที่3 58.3% เข็มที่3 6.5%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 74.1% เข็มที่ 65.3% เข็มที่3 2.6%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 20.2% เข็มที่ 16.5% เข็มที่3 0.5%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 73.6% เข็มที่2 68% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 61.5% เข็มที่3 6.9%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 119.7% เข็มที่2 107.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 74.7%
2. ชลบุรี เข็มที่1 92.4% เข็มที่2 85.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.3% เข็มที่2 75.6%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 88.3% เข็มที่2 78% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94% เข็มที่2 83.6%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.4% เข็มที่2 84.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.5% เข็มที่2 71.8%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 82.6% เข็มที่2 70.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.2% เข็มที่2 88%
6. ระนอง เข็มที่1 81.1% เข็มที่2 72.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.5% เข็มที่2 72.6%
7. ระยอง เข็มที่1 77% เข็มที่2 70.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.2% เข็มที่2 73.9%
8. พังงา เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 70.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.8% เข็มที่2 65.9%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 74.2% เข็มที่2 64.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.3% เข็มที่2 76.7%
10. กระบี่ เข็มที่1 70.8% เข็มที่2 65.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.5% เข็มที่2 74.6%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 69.9% เข็มที่2 63.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.8% เข็มที่2 67.4%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 69.3% เข็มที่2 61.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.1% เข็มที่2 63.5%
13. ตราด เข็มที่1 66.4% เข็มที่2 62.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่2 65.8%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 60.7% เข็มที่2 54.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.1% เข็มที่2 71.6%
15. เลย เข็มที่1 60.3% เข็มที่2 51.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.8% เข็มที่2 66.6%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.1% เข็มที่2 51.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.1% เข็มที่2 75.2%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 47.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.9% เข็มที่2 64.1%
รวม เข็มที่1 90.4% เข็มที่2 80.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 74.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 737,484,277 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 258,955,775 (55%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 138,772,562 โดส (77.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 100,907,667 โดส (50.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 99,898,515 โดส (76.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 55,882,568 โดส (79.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 33,548,501 โดส (36.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 30,883,470 โดส (84.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,761,384 โดส (59.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 790,506 โดส (94.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.37%
2. ยุโรป 10.47%
3. อเมริกาเหนือ 9.10%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.24%
5. แอฟริกา 3.23%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,673,69 ล้านโดส (191% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,377.02 ล้านโดส (100.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 495.1 ล้านโดส (149.1%)
4. บราซิล จำนวน 324.8 ล้านโดส (154.6%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 258.96 ล้านโดส (93.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (257.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (224.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (210.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. บาห์เรน (209.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (207.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. อุรุกวัย (196%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. จีน (191%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
8. สหราชอาณาจักร (189.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
9. เดนมาร์ก (185%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
10. กาตาร์ (183%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)