“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 98,856,753 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,607 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 728.3 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (119.5%)
➡️(17 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,607 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 41.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 488 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 203 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 728.3 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 256.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 98,856,753 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.87%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,607 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 17 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 98,856,753 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 50,314,980 โดส (76% ของประชากร)
-เข็มสอง 43,970,460 โดส (66.4% ของประชากร)
-เข็มสาม 4,567,313 โดส (6.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-17 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 98,856,753 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 416,336 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 290,713 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,759,863 โดส
– เข็มที่ 2 3,568,870 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 13,260,750 โดส
– เข็มที่ 2 27,522,909 โดส
– เข็มที่ 3 2,631,798 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,400,510 โดส
– เข็มที่ 2 6,991,902 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 6,401,762 โดส
– เข็มที่ 2 5,656,555 โดส
– เข็มที่ 3 1,358,384 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 492,095 โดส
– เข็มที่ 2 234,224 โดส
– เข็มที่ 3 577,131 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.1% เข็มที่2 119% เข็มที่3 95.1%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 61.9% เข็มที่3 21.7%
– อสม เข็มที่1 78.6% เข็มที่2 74.8% เข็มที่3 18.1%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 76.7% เข็มทเข็มที่2 69.4% เข็มที่3 5.5%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 67.4% เข็มที่3 57.6% เข็มที่3 5.9%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 73.7% เข็มที่ 64.8% เข็มที่3 2.1%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 20.1% เข็มที่ 16.3% เข็มที่3 0.5%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 73.3% เข็มที่2 67.4% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 69.8% เข็มที่2 61% เข็มที่3 6.3%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 119.5% เข็มที่2 106.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.5% เข็มที่2 74.3%
2. ชลบุรี เข็มที่1 92% เข็มที่2 84.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 75.1%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 87.9% เข็มที่2 76.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 93.6% เข็มที่2 82.2%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.3% เข็มที่2 84% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.4% เข็มที่2 71.6%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 70% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96% เข็มที่2 87.7%
6. ระนอง เข็มที่1 80.9% เข็มที่2 72.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.5% เข็มที่2 72.5%
7. ระยอง เข็มที่1 76.5% เข็มที่2 69.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.1% เข็มที่2 73.6%
8. พังงา เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 70.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.5% เข็มที่2 65.4%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 64.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.3% เข็มที่2 76%
10. กระบี่ เข็มที่1 70.5% เข็มที่2 65.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.3% เข็มที่2 74.2%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 69.6% เข็มที่2 63% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.5% เข็มที่2 67%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 68.7% เข็มที่2 61.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 63.3%
13. ตราด เข็มที่1 66.3% เข็มที่2 62.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 65.8%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 60.6% เข็มที่2 53.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81% เข็มที่2 71.1%
15. เลย เข็มที่1 59.8% เข็มที่2 50.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.2% เข็มที่2 66.3%
16. อุดรธานี เข็มที่1 58.9% เข็มที่2 50.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.9% เข็มที่2 74.9%
17. หนองคาย เข็มที่1 56% เข็มที่2 47.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.8% เข็มที่2 64%
รวม เข็มที่1 90.1% เข็มที่2 80.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.5% เข็มที่2 74.3%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 728,344,433 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 256.270,038 (54.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 135,736,968 โดส (77.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 100,013,599 โดส (50.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 98,856,753 โดส (76%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 55,563,359 โดส (79.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 32,650,954 โดส (35.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 30,776,076 โดส (84.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,602,851 โดส (58.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 790,506 โดส (94.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.33%
2. ยุโรป 10.47%
3. อเมริกาเหนือ 9.11%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.24%
5. แอฟริกา 3.26%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,630.2 ล้านโดส (187.9% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,360.24 ล้านโดส (99.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 488.3 ล้านโดส (147.1%)
4. บราซิล จำนวน 322.90 ล้านโดส (153.7%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 256.27 ล้านโดส (92.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (256.4%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (223.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (210.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. บาห์เรน (208%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (207.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. อุรุกวัย (195.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. จีน (187.9%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
8. สหราชอาณาจักร (185.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
9. เดนมาร์ก (182.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
10. กาตาร์ (182.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)