โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กรมการแพทย์ ห่วงคนทำงานกลางแจ้ง กับปัญหา “ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5” ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเมื่อสัมผัสฝุ่น PM 2.5 ระยะสั้น จะไอ จาม ระคายเคืองตา และผิวหนัง ส่วนระยะยาว มีผลต่อโรคระบบหัวใจ และหลอดเลือดโรคระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ฝุ่นมลพิษ PM 2.5 กลับมาอีกครั้ง คำว่า PM ย่อมาจากคำว่าอนุภาค และ ขนาดของอนุภาคนี้จะเล็กถึง 2.5 ไมครอน หรือขนาด 0.0025 มิลลิเมตร เทียบกับเม็ดทราย มีขนาด 60 ไมครอน ก็คงนึกออกว่าขนาดของ PM2.5 จะเล็กขนาดไหน ด้วยขนาดที่เล็กมากเมื่ออยู่ในอากาศ เราจึงหายใจลึกเข้าไปถึงถุงลมขนาดเล็กในปอด ที่น่ากลัวกว่านั้นคือมันสามารถแทรกผ่านผนังถุงลมเข้าไปในกระแสเลือดรอบๆ ถุงลมและกระจายเข้าร่างกายไปอวัยวะต่างๆได้โดยเลย เมื่อเข้าไปในร่างกายแล้ว จะทำให้เกิดการอักเสบของส่วนต่างๆ เช่น ปอด ผนังเส้นเลือด และอวัยวะต่างๆ ดังนั้น PM2.5 ก็จะทำให้มีทั้งอาการเฉียบพลัน เช่น แสบตา แสบคอ น้ำมูกไหล ผื่นผิวหนัง เหนื่อย มีเสมหะ ไอ ถ้าหายใจเข้าเป็นเวลานานก็จะทำให้มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจลำบาก จากโรคปอด และโรคของเส้นเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีรายงานทำให้คนเป็นโรคเบาหวานหรืออาการของเบาหวานแย่ลง มีผลต่อการตั้งครรภ์ และที่ร้ายที่สุดคือเป็นโรคมะเร็ง อนุภาคเหล่านี้มีส่วนประกอบแตกต่างกันตามแหล่งกำเนิด เช่นถ้าเกิอจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงจากรถยนต์ส่วนประกอบก็จะเป็นตัวทำละลาย ถ้าเกิดจากการเผาไหม้เช่นการเผาป่า ก็จะเป็นพวก Polyaromatic Hydrocarbon พวก ซัลเฟอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีมลพิษทางอากาศอื่นๆ ปะปนมาร่วมกับ PM2.5 ด้วย
นายแพทย์เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กล่าวว่า ในกลุ่มคนทำงานจะสัมผัส PM2.5 ได้ทั้งในอาคารและนอกอาคาร โดยเฉพาะในอาคารที่ไม่มีหน้าต่างหรือประตูที่ปิดมิดชิด และอยู่ในบริเวณที่คุณภาพอากาศไม่ดี ผู้ที่ทำงานนอกอาคารเช่น คนงานก่อสร้าง ตำรวจจราจร คนขับรถประจำทางไม่ปรับอากาศ และผู้โดยสาร ก็จะหายใจมลพิษเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย ถ้ามีอาการแสบตา แสบจมูก หรือเจ็บคอ ไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก จะต้องรีบหลบเข้าอาคาร อาการเหล่านี้จะเป็นชั่วครู่ ถ้าร่างกายแข็งแรงดี เมื่อไม่มีการหายใจเข้าไปแล้ว อาการก็จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ที่อยู่อาศัย หรือที่ทำงานอยู่ในบริเวณที่คุณภาพอากาศไม่ดี ควร พยายามทำงานให้เสร็จโดยเร็ว แล้วหลบเข้าในอาคารถ้าต้องทำงานกลางแจ้ง ใส่หน้ากากที่กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ เช่น หน้ากาก N95 ซึ่งในทางปฏิบัติจะทำให้ทำงานลำบากเนื่องจากเวลาออกแรงแล้วหายใจลำบาก จึงอาจใส่หน้ากากอนามัยสองชั้นแทน แล้วสังเกตอาการดู เครื่องฟอกอากาศก็สามารถช่วยกรอง PM2.5 ได้ การรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอก็ช่วยลดผลต่อสุขภาพจาก PM2.5 ได้ พยายามอย่าให้เป็นโรคทางเดินหายใจเช่นเป็นหวัด หรือสูบบุหรี่ เพราะจะยิ่งซ้ำเติมปอดให้แย่ลง จึงควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี ผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเช่นตำรวจจราจร ควรมีการตรวจสมรรถภาพปอดทุกปี ในขณะที่เรายังจัดการสาเหตุไม่ได้จึงควรปฏิบัติตามที่กล่าวไว้
นอกจากนี้ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ยังได้จัดตั้ง clinic มลพิษ online ซึ่งสามารถ add เข้ามาใน official line โดยคลินิกนี้จะมีแบบเตือนสภาพอากาศ แบบประเมินอาการตนเองและมีแพทย์คอยตอบปัญหาในคลินิกตลอดเวลา