ต๊าชชชชมาก คิกออฟแล้ว!! รัฐ เอกชน ผู้ประกอบการ เตรียมยกระดับอาหารถิ่นของไทยให้เป็นที่รู้จัก และพิสูจน์รสชาติ อัตลักษณ์ ของแต่ละภูมิภาค คาดหวังสร้างความนิยมและดึงกระแสท่องเที่ยวไทยในแต่ละพื้นที่ให้กลับมาคึกคัก ซึมซับผ่านวัฒนธรรมและเมนูอาหาร และสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน ตามแนวคิดหลัก “อาหารถิ่นยิ่งกิน ชุมชนยิ่งได้” โดยเมื่อเร็วๆ นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเพจ THAILAND FOODCATION รวมพลคนชอบเที่ยว ชอบกิน และรักวิถีท้องถิ่น จัดทำโครงการสุดสร้างสรรค์ที่จะมากระตุ้นการท่องเที่ยว พร้อมปลูกฝังวัฒนธรรมอันดีของไทย โดยเฉพาะวัฒนธรรมอาหารถิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ ให้เป็นที่รู้จักและได้รับความสนใจในวงกว้างเพิ่มมากขึ้นภายใต้โครงการ Eat Local Give Local กินดีเที่ยวไทย ไม่ทิ้งถิ่น นำเสนอเมนูสุดต๊าชชชทั้ง 4 ภาค
เพราะเชื่อว่าชุมชนจะแข็งแรงและเติบโตขึ้นได้ ต้องได้รับการพัฒนาและส่งเสริมให้วัตถุดิบท้องถิ่นกลายเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงกว้าง โครงการ Eat Local Give Local กินดีเที่ยวไทย ไม่ทิ้งถิ่น จึงได้เกิดขึ้น พร้อมเชิญไอดอลเชฟ ผู้มากประสบการณ์ ที่เข้าใจ และรู้ซึ้งในรสชาติอาหารไทยเป็นอย่างดี อย่าง เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ก้าวขึ้นทำเนียบ World Chef มาร่วมเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวความรู้อาหารถิ่น พร้อมยกระดับให้วัตถุดิบท้องถิ่น ให้สามารถก้าวขึ้นไปสู่อีกระดับของมาตรฐานได้ ในขณะเดียวกันก็นำเสนอภาพ สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ในแต่ละภูมิภาคเพื่อดึงดูดให้คนไปกิน ไปเที่ยว ไปใช้จ่ายในชุมชนแต่ละภาค เริ่มคิกออฟภาคกลางเป็นภาคแรกแล้ว
ด้าน เชฟชุมพล ได้เผยความรู้สึกว่า “โครงการ Eat Local Give Local กินดีเที่ยวไทย ไม่ทิ้งถิ่น” นอกจากจะเป็นโครงการที่นำวัฒนธรรมอาหารถิ่น รวมถึงวัตถุดิบท้องถิ่น ออกมาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นแล้ว โครงการนี้ยังถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดรายได้ หรือเกิดการไหลเวียนของเม็ดเงินให้เกิดขึ้นในชุมชนควบคู่ไปด้วยครับ โดยทุกคนสามารถทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใช้จ่ายหรือสนับสนุนวัตถุดิบท้องถิ่น ยิ่งเราเต็มใจใช้จ่ายสินค้าหรือบริการที่มาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถือเป็นการช่วยชุมชน และผู้ผลิตระดับเล็กมากเท่านั้นครับหากผู้ผลิตระดับเล็กเดินหน้าต่อไปได้ ชุมชนก็จะพัฒนาและแข็งแรงขึ้นอย่างยั่งยืนตามลำดับ”
“ด้านการเผยแพร่ยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นในวงกว้างนั้น นับเป็นอีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่ท้าทายมากๆ ของโครงการนี้ครับ โดยนอกเหนือจากรสชาติที่ตื่นตาตื่นใจแล้ว ครั้งนี้เรายังต้องการเห็นเชฟชุมชนผู้ซึ่งเป็นตัวแทนต้นกำเนิดวัตถุดิบท้องถิ่นได้รับการพัฒนาและส่งเสริมทักษะให้มีฝีมือมากขึ้นและก้าวขึ้นไปสู่อีกระดับของมาตรฐานได้ต่อไปครับ เรื่องราวความน่าตื่นเต้นของวัตถุดิบท้องถิ่น รวมถึงเมนูอาหารที่ผมและเชฟชุมชนจะช่วยกันครีเอทให้กลายเป็นเมนูพิเศษ จะเป็นอย่างไร ติดตามพวกเราได้ผ่านเพจ FOODCATION ด้วยนะครับ รับรองว่าครบเครื่องครบรสยิ่งกว่าเดิมแน่นอน อาหารถิ่นยิ่งกิน ชุมชนยิ่งได้ครับ”
อนึ่ง สำหรับโครงการ กินดีเที่ยวไทยไม่ทิ้งถิ่น Eat Local Give Local มุ่งเน้นตามรอยวัตถุดิบทั่วไทย แต่จะสนุก ผจญภัย เจาะลึกมากกว่าที่เคย ไปกับเชฟมิชลินคนใหม่ที่จะมายกระดับวัตถุดิบไทยให้ไปไกลระดับอินเตอร์ มีคอนเซปต์ชวนผู้ชมเวลาออกเดินทาง ไปพร้อมกับรสชาติอาหารท้องถิ่นกันแล้ว ที่ผ่านมาได้เริ่มต้นเปิดฉากตามรอยวัตถุดิบท้องถิ่น กับ Eat Local Give Local กินดีเที่ยวไทยไม่ทิ้งถิ่นในภูมิภาคแรก สตาร์ทที่ ภาคกลาง ภูมิภาคที่ได้รับการยกย่องให้เป็นห้องครัวของประเทศ ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบขึ้นชื่อมากมาย เป็น ep 1 โดย เชฟชุมพล ได้พาไปทำความรู้จักกับวัตถุดิบท้องถิ่น และ วัฒนธรรมการกินที่น่าสนใจที่ จ.อ่างทอง และ สิงห์บุรี เพื่อทำความรู้จักกับ ปลาช่อนแดดเดียว รวมถึง ผักกูด และ ขมิ้นขาว ความสนุกของการเดินทางเพื่อตามรอยวัตถุดิบ และ เมนูสุดพิเศษประจำภาคกลาง และหลังจากนี้ยังเมนูพิเศษประจำโครงการฯ รวมทั้งสิ้นอีก 4 เมนู ได้แก่ 1.ภาคกลาง : แกงขาวปลาช่อนแดดเดียวผักกูดสูตรโบราณ วัตถุดิบ : ปลาช่อนแดดเดียว และ ผักกูด 2.ภาคเหนือ : แกงผักหวานป่าปลากะพงย่างเกลือ วัตถุดิบ : ผักหวานป่า และ ปลากะพง 3.ภาคใต้ : ทะเลใต้หลนกะปิสองสัมพันธ์ วัตถุดิบ กะปิ กะทิ ปู กุ้งแชบ๊วย และ ปลาหมึก 4.ภาคอีสาน : ไก่ดำผัดหน่อหวายภูพาน วัตถุดิบ : ไก่ดำ และ หน่อหวาย) จะตื่นตาตื่นใจแค่ไหนอยากชวนให้ทุกคนติดตาม
*** ทั้งนี้เหล่าฟู้ดเลิฟเวอร์ และแฟนพันธุ์แท้เที่ยวเมืองไทย ช่วยชุมชนไทย ให้เศรษฐกิจคึกคัก สามารถติดตามโครงการ “โครงการ Eat Local Give Local กินดีเที่ยวไทย ไม่ทิ้งถิ่น” ได้จากทางเพจ FOODCATION ซึ่งทางโครงการฯ ได้จัดเตรียมโปรโมชั่นร้านอาหารท้องถิ่น โดยมีร้านอาหารชั้นเยี่ยมที่คัดสรรมาแล้วเข้าร่วมโครงการมากมาย สามารถไปตามรอยหาทานกันได้เลย นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสถานที่ โรงแรมที่พัก และสินค้าจากชุมชนอีกเพียบ ทั้งนี้ ระยะเวลาโปรโมชั่นเมนูที่เข้าร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. – 22 ธ.ค. 2564