กระทรวงสาธารณสุขห่วงสุขภาพประชาชนเดินทางท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก ขึ้นภูเขาสูง ยอดดอย ร่างกายปรับตัวไม่ทันอาจเจ็บป่วยได้ง่าย แนะจัดเตรียมเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวให้เหมาะสม รักษาความอบอุ่นของร่างกาย และยังต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเองจากโรคโควิด 19
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ภาคอีสานและภาคเหนือของไทยเริ่มมีอากาศหนาวเย็น นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภูเขาหรือยอดดอย ซึ่งพื้นที่สูงจะมีอากาศเบาบาง ออกซิเจนน้อยลง อาจทำให้เกิดอาการออกซิเจนในกระแสเลือดลดต่ำลงแบบไม่รู้ตัว อาการที่พบได้ เช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น เหนื่อย หายใจหอบ หายใจไม่ออก หน้ามืด เป็นลม นอกจากนี้ อากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ง่าย เช่น ไข้หวัดใหญ่ หอบหืด หลอดลมอักเสบ และปอดบวม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เนื่องจากคนกลุ่มนี้ร่างกายอ่อนแอ มีภูมิต้านทานต่ำ ขอให้เตรียมยาประจำตัวให้เพียงพอตลอดการเดินทาง รักษาความอบอุ่นให้กับร่างกาย สวมเสื้อผ้าเครื่องกันหนาวที่เหมาะสม ไม่นอนในที่โล่งแจ้ง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาว หรือจุดเตาผิงไฟในเต็นท์เพราะเสี่ยงสูดดมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์จากการเผาไหม้จนทำให้สมองขาดออกซิเจน เกิดอาการง่วงหลับโดยไม่รู้ตัวและเสียชีวิตได้
นายแพทย์รุ่งเรือง กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยยังพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ดังนั้น การท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีคนรวมตัวจำนวนมาก อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หรือมีการสัมผัสจุดสัมผัสร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อและแพร่เชื้อโควิด 19 ได้ จึงขอให้เคร่งครัดมาตรการป้องกันตัวเอง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง ตรวจวัดอุณหภูมิและแสกนไทยชนะทุกครั้งที่เข้าไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย
************************************ 4 ธันวาคม 2564