ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน บน 6367 เลย กับ รถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อ (หัวลาก) ทะเบียน 70-4176 อุดรธานี ส่วน (ตัวพ่วง) ทะเบียน 70-5180 อุดรธานี เฉี่ยวชนกันบนทางหลวง 201 ถนนสายชัยภูมิ-สีคิ้ว ขาออก บริเวณบ้านกุดละลม หมู่ 9 ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย เป็นชาย 3 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งโดยสารมากับรถยนต์กระบะ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2562 โดยเบื้องต้นได้สั่งการ สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ตรวจสอบและลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยอย่างใกล้ชิด ตลอดจนติดตามเร่งรัดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนเพื่อเยียวยาความสูญเสียโดยเร็ว
สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นอย่างยิ่ง จึงได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และ สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ติดตามบริษัทประกันภัยเพื่อเร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่าผู้เสียชีวิตมีการทำประกันชีวิตหรืออุบัติเหตุส่วนบุคคลประเภทอื่นๆ ไว้ด้วยหรือไม่ เพื่อใช้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 ราย อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ว่า รถยนต์กระบะหมายเลขทะเบียน บน 6367 เลย ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 613045425750 เริ่มความคุ้มครอง วันที่ 2 ธันวาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 2 ธันวาคม 2562 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 1 ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 12419-61304/กธ/034083-10 เริ่มความคุ้มครองวันที่ 2 ธันวาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 2 ธันวาคม 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 300,000 บาทต่อคน รวมแล้วไม่เกิน 10,000,000 บาทต่อครั้ง) ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 600,000 บาทต่อครั้ง กรณีเกิดความเสียหายต่อรถยนต์สูญหาย/ไฟไหม้ จำนวน 270,000 บาทต่อครั้ง สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 50,000 บาท ผู้โดยสาร 9 คน จำนวน 50,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 200,000 บาทต่อครั้ง
ในส่วนของรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ (หัวลาก) ทะเบียน 70-4176 อุดรธานี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 613043378059 เริ่มคุ้มครองวันที่ 30 มิถุนายน 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง 30 มิถุนายน 2562 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 14028-61304/กธ/019607-30 เริ่มความคุ้มครอง วันที่ 20 กรกฎาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 30 มิถุนายน 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 300,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 1,000,000 บาทต่อครั้ง) สำหรับความคุ้มครองตามเอกสารแนบท้าย (ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพถาวร ผู้ขับขี่ 1 คน จำนวน 500,000 บาท ผู้โดยสาร 2 คน จำนวน 500,000 บาทต่อคน ค่ารักษาพยาบาล จำนวน 50,000 บาทต่อคน การประกันตัวผู้ขับขี่ 500,000 บาทต่อครั้ง
ส่วน (รถพ่วง) ทะเบียน 70-5180 อุดรธานี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 613044899468 เริ่มความคุ้มครอง วันที่ 31 ธันวาคม 2561 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และได้ทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 ไว้กับบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรมธรรม์เลขที่ 14029-62304/กธ/004516-30 เริ่มความคุ้มครอง วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2562 สิ้นสุดความคุ้มครอง วันที่ 31 ธันวาคม 2562 โดยให้ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิต ร่ายกาย หรืออนามัย เฉพาะส่วนเกินวงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. จำนวน 300,000 บาทต่อคน และ 10,000,000 บาทต่อครั้ง ความเสียหายต่อทรัพย์สิน จำนวน 1,000,000 บาทต่อครั้ง)
สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 5 ราย นั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดและรายงานความคืบหน้าว่า ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้นำศพของผู้ประสบอุบัติเหตุ ทั้ง 5 ราย กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดในอำเภอวังสะพุง จังหวัดเลย ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จังหวัดชัยภูมิ จึงประสานงานไปยัง สำนักงาน คปภ. จังหวัดเลย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัย ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากบริษัทประกันภัยว่าได้มีการติดต่อทายาทของผู้เสียชีวิต ทั้ง 5 ราย แล้ว และจะเร่งดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนแก่ทายาทโดยธรรมของผู้ประสบภัย ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนจัดทำเอกสารประกอบการจ่ายค่าสินไหมทดแทน และคาดว่าจะสามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้
“สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อุบัติเหตุนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาและทุกสถานที่ จึงควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงภัย และขอฝากเตือนประชาชนควรใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียที่จะเกิดขึ้นได้ และหมั่นตรวจสอบวันหมดอายุกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.) ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งกรมธรรม์ประกันภัยรถภาคสมัครใจ และกรมธรรม์ประกันภัยอื่นๆ เพื่อที่ระบบประกันภัยจะได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องประกันภัยสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย