ปลัดสธ.เผยสถานการณ์โควิด19 ทั่วไทย ขณะนี้ดีขึ้น ก้าวสู่ระยะ “Smart Living with COVID-19” พร้อมกำชับทุกพื้นที่เฝ้าระวัง ป้องกันโควิดสายกลายพันธุ์ “โอไมครอน” ใกล้ชิด คงมาตรการตรวจด้วยวิธี RT-PCR กักตัว 14 วัน และสุ่มตรวจเชื้อก่อนออกนอกประเทศ
วันที่1 ธันวาคม 2564 เวลา7.30 น.ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณี โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 382 /2564 ผ่านระบบทางไกล (VDO Conference) กับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินและติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด19 โดยเฉพาะการป้องกันเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์กลายพันธุ์ “ โอไมครอน”
ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่าสถานการณ์โรคโควิด19 ในภาพรวม พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต มีแนวโน้มลดลงสอดคล้องตามการคาดการณ์ และเข้าสู่ระยะ Smart Living with COVID-19 คือการใช้ชีวิตวิถีใหม่เพื่ออยู่กับเชื้อไวรัสโควิดอย่างปลอดภัย โดยขณะนี้ยังคงพบการระบาดในชุมชน ครอบครัวซึ่งเกิดมาจากการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น งานศพ งานบุญต่างๆเป็นต้น รวมทั้งติดเชื้อมาจากสถานที่เสี่ยง เช่น ตลาด แคมป์คนงาน เรือนจำ โรงเรียน ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเร่งประชาชนสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกัน และเคร่งครัดมาตรการต่างๆ เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ อย่างต่อเนื่อง
ประเด็นสำคัญเร่งด่วน คือการป้องกันเชื้อโควิด19 สายกลายพันธุ์ โอไมครอน (Omicron) ซึ่งขณะนี้พบมีการยืนยันติดเชื้อในหลายประเทศ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดเน้นการเฝ้าระวังผู้เดินทางเข้าประเทศจากแอฟริกา และประเทศที่ตรวจพบสายพันธุ์กลายพันธุ์ชนิดนี้อย่างใกล้ชิด โดยคงมาตรการตรวจด้วยวิธี RT-PCR และกักตัวใน AQ ครบ 14 วัน และพิจารณาให้สุ่มตรวจเชื้อก่อนออกนอกประเทศด้วย
สำหรับในกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยว Sandbox โดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากแรงงานต่างด้าว และคนในชุมชน ได้เน้นให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเฝ้าระวังการระบาดในพื้นที่ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ ให้ทบทวนแผนการกำกับ ติดตามแรงงานข้ามถิ่น รวมถึงมาตรการ VUCA โดยเฉพาะปฎิบัติการตามมาตรการ UP และสอบสวนผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศทุกราย เน้นชาวต่างชาติสวมหน้ากากอนามัย ทั้งกรณี Test&Go และ Sandbox
#กรมสุขภาพจิต