“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 92,125,296 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,896 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 650.2 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (116.4%)
➡️(28 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,896 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35.8 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 454 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 650.2 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91.4% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 231.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 92,125,296 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.54%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,896 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 92,125,296 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 47,847,646 โดส (72.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 40,963,885 โดส (61.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,313,765 โดส (5% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-28 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 92,125,296 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 467,240 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 474,529 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,569,965 โดส
– เข็มที่ 2 3,552,109 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 12,607,678 โดส
– เข็มที่ 2 26,303,130 โดส
– เข็มที่ 3 2,432,814 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,254,854 โดส
– เข็มที่ 2 6,682,821 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 5,219,492 โดส
– เข็มที่ 2 4,386,281 โดส
– เข็มที่ 3 733,565 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 195,657 โดส
– เข็มที่ 2 39,544 โดส
– เข็มที่ 3 147,386 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.1% เข็มที่2 119.7% เข็มที่3 94.1%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 61.5% เข็มที่3 19.6%
– อสม เข็มที่1 78% เข็มที่2 73.8% เข็มที่3 15.9%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 74.2% เข็มที่1 66.5% เข็มที่3 3.8%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 63.8% เข็มที่2 53% เข็มที่3 3.8%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70% เข็มที่2 61.7% เข็มที่3 1.1%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18.8% เข็มที่2 15% เข็มที่3 0.3%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 68.4% เข็มที่2 60.3% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 66.4% เข็มที่2 56.9% เข็มที่3 4.6%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 116.4% เข็มที่2 102.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 73.1%
2. ชลบุรี เข็มที่1 89.2% เข็มที่2 81.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77% เข็มที่2 73.3%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 86.3% เข็มที่2 83.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.8% เข็มที่2 71.1%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 81.5% เข็มที่2 63.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 88.4% เข็มที่2 69.6%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 80.1% เข็มที่2 67.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.7% เข็มที่2 86%
6. ระนอง เข็มที่1 76.7% เข็มที่2 66% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.8% เข็มที่2 71.9%
7. พังงา เข็มที่1 72.3% เข็มที่2 66.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.7% เข็มที่2 71.4%
8. ระยอง เข็มที่1 72.2% เข็มที่2 62.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.2% เข็มที่2 62.5%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 55.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.8% เข็มที่2 70.6%
10. กระบี่ เข็มที่1 69.4% เข็มที่2 63.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.3% เข็มที่2 73.3%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 67.2% เข็มที่2 59.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.7% เข็มที่2 65.5%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 65.9% เข็มที่2 59.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 61.7%
13. ตราด เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 56.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 62.9%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59.9% เข็มที่2 51.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.2% เข็มที่2 67.3%
15. เลย เข็มที่1 56.3% เข็มที่2 47.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.9% เข็มที่2 63.2%
16. อุดรธานี เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 47.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.8% เข็มที่2 72.7%
17. หนองคาย เข็มที่1 53.5% เข็มที่2 46.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.3% เข็มที่2 63.4%
รวม เข็มที่1 87.1% เข็มที่2 75.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.6% เข็มที่2 71.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 650,278,023 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 231,972,133 (50.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 117,691,092 โดส (71%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 92,125,296 โดส (72.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 81,017,994 โดส (40.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 53,185,334 โดส (78.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,634,573 โดส (83.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 26,796,436 โดส (28.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,024,452 โดส (52.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 747,384 โดส (91.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.43%
2. ยุโรป 10.40%
3. อเมริกาเหนือ 9.28%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.26%
5. แอฟริกา 3.01%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,472.85 ล้านโดส (176.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,219.69 ล้านโดส (89.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 454.45 ล้านโดส (136.9%)
4. บราซิล จำนวน 297.96 ล้านโดส (141.8%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 231.97 ล้านโดส (84.1%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (246.7%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (211.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (206% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (203%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (195%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (192.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (178.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (177.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (176.6%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
10. กัมพูชา (175.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)