วธ.ปรับภาพลักษณ์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนงานในปี 2565 เป็น “กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ” ที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ใช้วัฒนธรรม – ความคิดสร้างสรรค์พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ตามยุทธศาสตร์ 6 ด้านเน้นเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ สืบสานอนุรักษ์ศิลปะ – วัฒนธรรม หนุนนำวัฒนธรรมมาสร้างเศรษฐกิจ ยกระดับ Soft Power ไทยในเวทีโลก
วันที่.26.พฤศจิกายน.2564.เวลา.13.00.น..นายอิทธิพล.คุณปลื้ม.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายสืบสาน.รักษาและต่อยอดทางวัฒนธรรมสู่การสร้างคุณค่าและมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ.พร้อมมอบนโยบายสืบสาน.รักษาและต่อยอดทางวัฒนธรรมสู่การสร้างคุณค่าและมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร.ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม.ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม.(วธ.) วัฒนธรรมจังหวัด.ข้าราชการ.และเจ้าหน้าที่เข้าร่วม.ณ.โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ
นายอิทธิพล.กล่าวว่า จากแนวคิด “เศรษฐกิจวัฒนธรรมใหม่ สร้างรายได้ เสริมคุณค่า พัฒนาสังคม” ขณะนี้.วธ. ได้ปรับเปลี่ยนภารกิจทั้งการสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ ให้กลายเป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจที่ได้รับ การยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ช่วยพลิกฟื้นภาคศิลปวัฒนธรรม เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยให้เข้มแข็งและมั่นคง ท่ามกลางความผันผวนของโลก โดยเปิดเวทีระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนและปรับวิสัยทัศน์.พันธกิจ.ยุทธศาสตร์.และแผนปฏิบัติราชการ วธ.ระยะ 5 ปี (ปี พ.ศ. 2566 – 2570) ขับเคลื่อนวธ.เป็นหน่วยงานสังคมกึ่งเศรษฐกิจที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ คือ “วัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ มีบทบาทนำในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย” และมียุทธศาสตร์ 6 ข้อ ประกอบด้วย
1.เสริมพลังการเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ และการสืบสาน สร้างสรรค์ทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน
2.ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยมิติทางวัฒนธรรมและพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมวัฒนธรรมให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก
3.เสริมสร้างภาพลักษณ์ เกียรติภูมิ และยกระดับบทบาท ด้านวัฒนธรรมของไทยในเวทีโลก
4.ปลุกจิตสำนึกและเสริมสร้างค่านิยมเชิงบวกสู่สังคมคุณธรรมในบริบทสังคมไทยและสังคมโลก
5.พัฒนาสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และการสร้างสรรค์งานด้านศิลปวัฒนธรรม
6.พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการงานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมสู่ระดับนานาชาติ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขอให้หน่วยงานสังกัดวธ.ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคบูรณาการ ความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ เอกชน สภาวัฒนธรรมทุกระดับ เครือข่ายทางวัฒนธรรมและชุมชน ขับเคลื่อนงานด้านวัฒนธรรมในปี พ.ศ. 2565 โดยมุ่งเน้น 6 ด้าน ได้แก่
1.การเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ รักษาและสืบสานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม เช่น งาน “ใต้ร่มพระบารมี กรุงรัตนโกสินทร์”.งานมหกรรมวัฒนธรรมทั่วประเทศ งานพิธีการศพที่ได้รับพระราชทาน
2.การส่งเสริมการนำวัฒนธรรมมาสร้างเศรษฐกิจ อาทิ ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) พัฒนา CPOT สู่สากล การพัฒนาลายผ้าและยกระดับผ้าไทยสู่สากล การท่องเที่ยวชุมชน ยลวิถี ยกระดับเทศกาลประเพณีท้องถิ่นสู่สากล และโครงการพัฒนาศักยภาพศิลปินและบุคลากรในภาคศิลปวัฒนธรรม อาทิ อบรมเขียนบทภาพยนตร์ นักออกแบบรุ่นเยาว์
3.การยกระดับ Soft Power ไทยในเวทีโลก เช่น การส่งเสริมสื่อและคอนเทนต์ไทย อาทิ ภาพยนตร์ ละคร ซีรีย์ เกม โฆษณา ซึ่งสะท้อนและสอดแทรกวัฒนธรรม ความเป็นไทย เผยแพร่สู่ระดับโลก การส่งเสริมอุตสาหกรรมวัฒนธรรมที่มีศักภาพของไทย 5 F ได้แก่ อาหารไทย แฟชั่น มวยไทย ภาพยนตร์ และประเพณีท้องถิ่นสู่สากล และบทบาทด้านวัฒนธรรมของไทยในเวทีองค์การระหว่างประเทศ
4.การสร้างค่านิยมเชิงบวก ภูมิคุ้มกันทางสังคม และสังคมคุณธรรม เช่น การเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ ผลิตและเผยแพร่สื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การส่งเสริมบุคคล ครอบครัว ชุมชน อำเภอ จังหวัด และองค์กรคุณธรรม
5.ยกระดับการศึกษาและการเรียนรู้ทางวัฒนธรรม อาทิ เปิดพื้นที่หอศิลป์แห่งชาติและพัฒนาให้เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมระดับโลก ยกระดับแหล่งเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ทั่วประเทศโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
6.ยกระดับการบริหารจัดการ งานวัฒนธรรม เช่น จัดทำศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้านวัฒนธรรม ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายด้านวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมปัจจุบัน และขับเคลื่อนงานยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ
นายอิทธิพล กล่าวด้วยว่า สำหรับวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ใหม่ของวธ.ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูปประเทศ และนโยบายรัฐบาลให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป้าหมายสำคัญของวธ.ในวาระครบรอบ 20 ปี ที่มุ่งส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเข้าถึงศิลปวัฒนธรรม ใช้ศักยภาพเพื่อการสร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมมาพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมไทย ให้เป็นสังคมคุณธรรม มีความสุข มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน