“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 90,468,957 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,804 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 635.4 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (115.8%)
➡️(25 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,804 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 34.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 454 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 635.4 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91.2% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 228 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 90,468,957 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.45%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,804 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 90,468,957 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 47,233,526 โดส (71.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 40,056,072 โดส (60.5% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,179,359 โดส (4.8% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-25 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 90,468,957 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 574,772 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 511,214 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,490,163 โดส
– เข็มที่ 2 3,549,435 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 12,283,244 โดส
– เข็มที่ 2 25,757,845 โดส
– เข็มที่ 3 2,357,866 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,217,855 โดส
– เข็มที่ 2 6,607,532 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 5,077,507 โดส
– เข็มที่ 2 4,112,968 โดส
– เข็มที่ 3 699,951 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 164,757 โดส
– เข็มที่ 2 28,291 โดส
– เข็มที่ 3 121,540 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.2% เข็มที่2 119.8% เข็มที่3 93.9%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 61.3% เข็มที่3 19.3%
– อสม เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 73.4% เข็มที่3 15.6%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 73.5% เข็มที่1 65.6% เข็มที่3 3.6%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 62.9% เข็มที่2 51.7% เข็มที่3 3.6%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.2% เข็มที่2 60.8% เข็มที่3 1%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18.8% เข็มที่2 14.8% เข็มที่3 0.3%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 67.2% เข็มที่2 57.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 55.6% เข็มที่3 4.4%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 115.8% เข็มที่2 102.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.5% เข็มที่2 72.8%
2. ชลบุรี เข็มที่1 88.4% เข็มที่2 80.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.4% เข็มที่2 73%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 86% เข็มที่2 82.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 70.8%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 80.1% เข็มที่2 62.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 86.4% เข็มที่2 68.9%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 79.6% เข็มที่2 66.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.4% เข็มที่2 85.6%
6. ระนอง เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 64.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.6% เข็มที่2 71.7%
7. พังงา เข็มที่1 72.1% เข็มที่2 65.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 71.1%
8. ระยอง เข็มที่1 70.7% เข็มที่2 61.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.6% เข็มที่2 61.8%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 69.3% เข็มที่2 51.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.3% เข็มที่2 68.5%
10. กระบี่ เข็มที่1 68.7% เข็มที่2 61.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.7% เข็มที่2 72.6%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 57.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.3% เข็มที่2 64.8%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 65.2% เข็มที่2 58% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.8% เข็มที่2 61.8%
13. ตราด เข็มที่1 64.3% เข็มที่2 56.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.7% เข็มที่2 62.6%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59.5% เข็มที่2 49.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.7% เข็มที่2 64.5%
15. เลย เข็มที่1 55.6% เข็มที่2 46.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.3% เข็มที่2 61.3%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54.9% เข็มที่2 46.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80% เข็มที่2 71.4%
17. หนองคาย เข็มที่1 52.8% เข็มที่2 45.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.8% เข็มที่2 63%
รวม เข็มที่1 86.4% เข็มที่2 74.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.2% เข็มที่2 70.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 635,499,316 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 228,064,756 (49.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 112,944,634 โดส (69.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 90,468,957 โดส (71.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 78,528,357 โดส (39.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 52,391,444 โดส (78.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,563,662 โดส (83.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,869,175 โดส (28.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,843,668 โดส (50.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 741,334 โดส (91.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.34%
2. ยุโรป 10.40%
3. อเมริกาเหนือ 9.37%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.30%
5. แอฟริกา 2.97%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,449.43 ล้านโดส (175% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,194.16 ล้านโดส (87.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 454.45 ล้านโดส (136.9%)
4. บราซิล จำนวน 297.96 ล้านโดส (141.8%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 228.06 ล้านโดส (82.7%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (246.4%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (209.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (205.5% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (202.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (194%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (191.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (176.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (175%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. จีน (174.8%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)