วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๐.๐๐ น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำทีมคณะผู้บริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินทางไป The Studio Park จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเยี่ยมชมกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง “Thai Cave Rescue” จากสหรัฐอเมริกา ของบริษัท Deep Dive Production (USA) โดยความร่วมมือระหว่าง Netflix และ SK Global Entertainment โดยมีนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายทวีศักดิ์ วาณิชย์เจริญ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย
การเดินทางเยี่ยมชมกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในครั้งนี้ ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากทีมผู้สร้างภาพยนตร์ นำโดย MR. JOHN PENOTTI ผู้อำนวยการบริหารการผลิตภาพยนตร์ (Executive Producer) และประธานกรรมการบริหารร่วม (Co-CEO) SK Global Entertainment Mr. Michael Russell Gunn ผู้ควบคุมคิวการถ่ายทำ (Showrunner) MRS. WIN YEE LAU ผู้ผลิตภาพยนตร์ (Producer) และทีมงานบริษัท เปสตัน ฟิล์ม จำกัด สำหรับผู้ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยนำโดย นายธัญญ์ เปสตันยี กรรมการบริษัท และนายปิยะ เปสตันยี ผู้จัดการกองถ่าย/กรรมการบริษัท
ภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง “Thai Cave Rescue” ได้เริ่มถ่ายทำในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีทีมงานกว่า 800 คน สร้างรายได้ให้กับพื้นที่กว่า ๒๐๐ ล้านบาท และการถ่ายทำเป็นไปด้วยความเรียบร้อยภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 และช่วงปลายเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ คณะถ่ายทำได้เดินทางมาถ่ายทำต่อที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งคาดว่าจะถ่ายทำแล้วเสร็จในวันที่ ๑๗ ธันวาคม 2564 การถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อให้เกิดการจ้างงาน กระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการและบุคลากรชาวไทยที่เกี่ยวข้องกว่า ๑,๐๐๐ คน ทั้งในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ และชุมชนในท้องถิ่นที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ รวมประมาณ ๘๓๓ ล้านบาท
หลังจากการเยี่ยมชมกองถ่ายทำ คณะผู้บริหารได้เยี่ยมชมสตูดิโอ และอุปกรณ์การถ่ายทำของ The Studio Park และบริษัท เกียร์เฮด จำกัด ซึ่ง The Studio Park เป็นโรงถ่ายภาพยนตร์แห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดให้บริการถ่ายทำภาพยนตร์แบบครบวงจร มีกองถ่ายภาพยนตร์จากต่างประเทศมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเยี่ยมชมกองถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศเรื่อง “Thai Cave Rescue” แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีมงานชาวไทยในการร่วมงานกับคณะถ่ายทำภายพนตร์ต่างประเทศ และรวมไปถึงวิธีการบริหารจัดการกองถ่ายทำภาพยนตร์ในรูปแบบวิถีใหม่ ตามข้อกำหนดออกตามมาตรการสำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ โทรทัศน์ และวีดิทัศน์ และมาตรการป้องกันการติดเชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ประเทศไทยจะได้รับความสนใจจากผู้สร้างภาพยนตร์รายใหญ่ที่มีงบประมาณการลงทุนสูงเดินทางเข้ามาถ่ายทำเพิ่มมากขึ้น