“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 89,894,183 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,765 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 629.8 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (115.5%)
➡️(24 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,765 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 33.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 453 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 629.8 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91.1% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 226.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 89,894,183 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.41%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,765 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 89,894,183 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 47,034,024 โดส (71.1% ของประชากร)
-เข็มสอง 39,724,270 โดส (60% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,135,889 โดส (4.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-24 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 89,894,183 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 557,392 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 546,149 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,459,097 โดส
– เข็มที่ 2 3,548,400 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 12,169,373 โดส
– เข็มที่ 2 25,556,874 โดส
– เข็มที่ 3 2,336,333 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,203,939 โดส
– เข็มที่ 2 6,582,068 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 5,046,730 โดส
– เข็มที่ 2 4,000,689 โดส
– เข็มที่ 3 687,053 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 154,885 โดส
– เข็มที่ 2 27,239 โดส
– เข็มที่ 3 112,503 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.2% เข็มที่2 119.8% เข็มที่3 93.9%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 61.2% เข็มที่3 19.2%
– อสม เข็มที่1 77.5% เข็มที่2 73.1% เข็มที่3 15.5%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 73.3% เข็มที่1 65.3% เข็มที่3 3.6%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 62.6% เข็มที่2 51.2% เข็มที่3 3.5%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.9% เข็มที่2 60.5% เข็มที่3 1%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18.4% เข็มที่2 14.5% เข็มที่3 0.3%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 67% เข็มที่2 55.9% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 65.3% เข็มที่2 55.1% เข็มที่3 4.4%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 115.5% เข็มที่2 101.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.5% เข็มที่2 72.7%
2. ชลบุรี เข็มที่1 88.2% เข็มที่2 80.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.3% เข็มที่2 72.8%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 85.9% เข็มที่2 82.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.6% เข็มที่2 70.7%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 79.7% เข็มที่2 61.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 86% เข็มที่2 68.4%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 79.5% เข็มที่2 66.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.3% เข็มที่2 85.5%
6. ระนอง เข็มที่1 75.6% เข็มที่2 63.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.6% เข็มที่2 71.6%
7. พังงา เข็มที่1 72.1% เข็มที่2 65.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 71%
8. ระยอง เข็มที่1 70.3% เข็มที่2 60.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.4% เข็มที่2 61.5%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 69.1% เข็มที่2 50.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.3% เข็มที่2 67.9%
10. กระบี่ เข็มที่1 68.4% เข็มที่2 61.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.2% เข็มที่2 72.1%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 66.3% เข็มที่2 57% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 64.5%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 65% เข็มที่2 57.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.6% เข็มที่2 61.1%
13. ตราด เข็มที่1 64.2% เข็มที่2 55.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.6% เข็มที่2 62.3%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59.3% เข็มที่2 49.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.5% เข็มที่2 63.8%
15. เลย เข็มที่1 55.3% เข็มที่2 46.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71% เข็มที่2 61%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54.7% เข็มที่2 46% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80% เข็มที่2 71%
17. หนองคาย เข็มที่1 52.5% เข็มที่2 44.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่2 62.7%
รวม เข็มที่1 86.1% เข็มที่2 74.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80% เข็มที่2 70.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 629,866,690 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 226,236,243 โดส (49.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 110,917,609 โดส (69%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 89,894,183 โดส (71.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 77,560,344 โดส (39.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 52,232,576 โดส (78.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,535,743 โดส (83.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,869,175 โดส (28.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,799,206 โดส (50.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 738,282 โดส (91.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.34%
2. ยุโรป 10.40%
3. อเมริกาเหนือ 9.34%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.33%
5. แอฟริกา 2.97%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,442.79 ล้านโดส (174.5% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,184.73 ล้านโดส (86.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 452.66 ล้านโดส (136.3%)
4. บราซิล จำนวน 297.96 ล้านโดส (141.8%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 226.24 ล้านโดส (82%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (245.9%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (209.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (205.2% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (202.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (193.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (191.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (176.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (174.7%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. จีน (174.5%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)