“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 89,336,791 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,737 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 625.4 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (115.2%)
➡️(23 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,737 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 33 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 451 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 625.4 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 225.6 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 89,336,791 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.35%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,737 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 23 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 89,336,791 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 46,836,876 โดส (70.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 39,403,769 โดส (59.5% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,096,146 โดส (4.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-23 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 89,336,791 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 347,556 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 560,719 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,428,746 โดส
– เข็มที่ 2 3,547,609 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 12,057,856 โดส
– เข็มที่ 2 25,367,343 โดส
– เข็มที่ 3 2,314,367 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,186,742 โดส
– เข็มที่ 2 6,552,098 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 5,019,276 โดส
– เข็มที่ 2 3,910,689 โดส
– เข็มที่ 3 676,317 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 144,256 โดส
– เข็มที่ 2 26,030 โดส
– เข็มที่ 3 105,462 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.3% เข็มที่2 119.9% เข็มที่3 93.9%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 61.2% เข็มที่3 19.1%
– อสม เข็มที่1 77.3% เข็มที่2 72.9% เข็มที่3 15.3%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 73.1% เข็มที่1 65% เข็มที่3 3.5%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 62.2% เข็มที่2 50.7% เข็มที่3 3.4%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.6% เข็มที่2 60.3% เข็มที่3 1%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18.3% เข็มที่2 14.4% เข็มที่3 0.3%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 66.8% เข็มที่2 54.7% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 65% เข็มที่2 54.7% เข็มที่3 4.3%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 115.2% เข็มที่2 101.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 72.6%
2. ชลบุรี เข็มที่1 87.9% เข็มที่2 79.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.2% เข็มที่2 72.7%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 85.8% เข็มที่2 82.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.4% เข็มที่2 70.7%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 79.4% เข็มที่2 66.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.2% เข็มที่2 85.4%
5. เชียงใหม่ เข็มที่1 79.3% เข็มที่2 60.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 85.6% เข็มที่2 68%
6. ระนอง เข็มที่1 75% เข็มที่2 62.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.5% เข็มที่2 71.5%
7. พังงา เข็มที่1 72% เข็มที่2 64.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.2% เข็มที่2 71%
8. ระยอง เข็มที่1 69.8% เข็มที่2 59.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.3% เข็มที่2 61%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 1 68.9% เข็มที่2 49.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.1% เข็มที่2 67.5%
10. กระบี่ เข็มที่1 68.3% เข็มที่2 60.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.6% เข็มที่2 71.7%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 66% เข็มที่2 56.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70% เข็มที่2 64.3%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 64.7% เข็มที่2 57% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.4% เข็มที่2 60.9%
13. ตราด เข็มที่1 64.1% เข็มที่2 54.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 62.1%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59.2% เข็มที่2 49.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 63.5%
15. เลย เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 45.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.8% เข็มที่2 60.3%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54.6% เข็มที่2 45.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.8% เข็มที่2 70.6%
17. หนองคาย เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 44.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 62.5%
รวม เข็มที่1 85.9% เข็มที่2 73.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.9% เข็มที่2 70.3%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 625,492,338 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 225,644,845 โดส (49.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 108,915,813 โดส (68.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 89,336,791 โดส (70.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 76,522,732 โดส (38.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 52,082,943 โดส (78.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,503,269 โดส (83.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,869,175 โดส (28.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,799,206 โดส (50.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 734,235 โดส (91%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.31%
2. ยุโรป 10.40%
3. อเมริกาเหนือ 9.35%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.34%
5. แอฟริกา 2.98%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,437.25 ล้านโดส (174.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,176.59 ล้านโดส (86%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 451.45 ล้านโดส (136%)
4. บราซิล จำนวน 297.96 ล้านโดส (141.8%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 225.64 ล้านโดส (81.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (245.7%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (209.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (205.2% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (202.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (192.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (191%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (176.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (174.5%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. จีน (174.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)