“บิ๊กอู๋”เผย เอกอัครราชทูตฯ ณ กรุงโซล พบปะแรงงานไทย พร้อมย้ำไปใช้สิทธิเลือกตั้ง

รมว.แรงงาน เผย เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล พบปะแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานสาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ EPS ชื่นชมความมุ่งมั่นตั้งใจ เรียนรู้ภาษาเกาหลีและผ่านการทดสอบ มีเป้าหมายหารายได้เลี้ยงครอบครัว พร้อมย้ำให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายแรงงาน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ว่า แรงงานไทยที่ได้เดินทางไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี ตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) จำนวน 190 คน ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งได้ผ่านการอบรมจากกรมการจัดหางาน และได้รับโอวาทจาก รมว.แรงงาน และปลัดกระทรวงแรงงานแล้วเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ โดยทั้งหมดได้เดินทางถึงเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นจะต้องเข้าอบรมก่อนทำงาน ณ ศูนย์อบรม KLF เมืองยอจู จังหวัดคยองกี เป็นเวลา 3 วัน เพื่อให้ทราบถึงกฎหมายแรงงาน ระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ และการดำเนินชีวิตในเกาหลีใต้ ก่อนที่นายจ้างจะมารับตัวเข้าทำงานตามสัญญาจ้างต่อไป

โอกาสนี้ ฝ่ายแรงงาน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี รายงานว่า นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล พร้อมด้วย นางสาวพินยุดา แจ่มจันทร์ศรี ผู้ช่วยทูตแรงงาน พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปยังศูนย์อบรม KLF เมืองยอจู จังหวัดคยองกี โดยมี นายจอง ซิค ลี เลขาธิการ KLF (Korea Labour Foundation) นายฮิยอน แบค ฮา ผู้อำนวยการทีมแรงงานต่างชาติ และทีมเจ้าหน้าที่ KLF ให้การต้อนรับ โดยนายสิงห์ทองฯ ได้พูดคุยหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายจอง ซิค ลี ในประเด็นการคัดเลือกแรงงานไทยเข้ามาทำงานตามระบบ EPS ( Employment Service System) และความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และไทยในมิติต่าง ๆ พร้อมทั้งรับฟังบรรยายสรุปบทบาทภารกิจของ KLF  หลังจากนั้นได้กล่าวให้โอวาทแก่แรงงานไทยที่เข้ารับการอบรมก่อนเข้าทำงานในภาคอุตสาหกรรม โดยได้กล่าวว่า ชื่นชมในความมุ่งมั่น ตั้งใจเรียนรู้ภาษาเกาหลีและผ่านการทดสอบสมรรถนะ จนได้รับคัดเลือกให้เดินทางมาทำงาน ซึ่งต่างมีเป้าหมายในการหารายได้นำไปเลี้ยงดูครอบครัว และเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจชาติอีกทางหนึ่งจากเงินที่ส่งกลับบ้าน

นายสิงห์ทองฯ กล่าวต่อว่า การทำงานในเกาหลีเป็นงานที่ต้องใช้กำลัง เป็นงานหนัก งานบางอย่างต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียง มีกลิ่นรุนแรง มากกว่าปกติ จึงต้องมีความอดทนกับงานที่ทำ ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานอย่างมีวินัยทุกครั้ง รวมทั้งเตรียมรับมือกับความแตกต่างของสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่าเมืองไทย จำเป็นต้องดูแลรักษาสุขภาพกายและจิตใจให้แข็งแรงอยู่เสมอ ที่สำคัญคือการไม่ไปเกี่ยวข้องกับอบายมุขและยาเสพติดทุกประเภท หากมีปัญหาให้ติดต่อกับฝ่ายแรงงานฯ ประจำสถานเอกอัครราชทูตฯ  หรือศูนย์ช่วยเหลือแรงงานต่างชาติในพื้นที่ต่าง ๆ ตามช่องทางและหมายเลขโทรศัพท์ที่มีในคู่มือซึ่งแจกให้แล้ว  ในโอกาสนี้ขอให้กำลังใจแก่แรงงานไทยทุกคนที่มาทำงานในเกาหลีใต้ ให้ประสบกับความสำเร็จในทุกสิ่งที่มุ่งหวังและมีสุขภาพกายใจแข็งแรง ทำงานราบรื่นจนสิ้นสุดสัญญาจ้าง ตลอดจนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรได้ตั้งแต่วันที่ 4-16 มีนาคม 2562 ตามที่สถานเอกอัครราชทูตได้ออกประกาศ โดยลงทะเบียนได้จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์นี้

ด้านนายจอง ซิค ลี เลขาธิการ KLF ได้กล่าวชื่นชมแรงงานไทยที่มีความซื่อสัตย์ ขยัน อดทน ทำให้เป็นที่นิยมชื่นชอบของนายจ้างชาวเกาหลี และแรงงานไทยเป็นความภาคภูมิใจของ KLF ด้วย พร้อมขอให้แรงงานไทยทุกคนประสบความสำเร็จมีรายได้ส่งกลับประเทศตามที่ตั้งใจอีกด้วย

—————————-

กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ – ข่าว/ฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ข้อมูล – ภาพ/14 กุมภาพันธ์ 2562