“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 88,989,235 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,674 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 621.39 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (115%)
➡️(22 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,674 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 445 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 621.39 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (90.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 224 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 88,989,235 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.32%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,674 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 88,803,596 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 46,718,014 โดส (70.6% ของประชากร)
-เข็มสอง 39,202,716 โดส (59.2% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,068,505 โดส (4.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-22 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 88,989,235 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 185,639โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 568,100 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,410,177 โดส
– เข็มที่ 2 3,547,307 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 11,989,662 โดส
– เข็มที่ 2 25,239,717 โดส
– เข็มที่ 3 2,298,484 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,174,106 โดส
– เข็มที่ 2 6,529,723 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 5,006187 โดส
– เข็มที่ 2 3,860,762 โดส
– เข็มที่ 3 668,960 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 137,882 โดส
– เข็มที่ 2 25,207 โดส
– เข็มที่ 3 101,061 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.3% เข็มที่2 119.9% เข็มที่3 93.8%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 61.1% เข็มที่3 19%
– อสม เข็มที่1 77.3% เข็มที่2 72.8% เข็มที่3 15.3%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 73% เข็มที่1 64.8% เข็มที่3 3.5%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 62% เข็มที่2 50.4% เข็มที่3 3.4%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 60.1% เข็มที่3 0.9%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18.2% เข็มที่2 14.3% เข็มที่3 0.2%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 66.7% เข็มที่2 54.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 64.9% เข็มที่2 54.4% เข็มที่3 4.3%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 115% เข็มที่2 101.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.4% เข็มที่2 72.3%
2. ชลบุรี เข็มที่1 87.7% เข็มที่2 79.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.1% เข็มที่2 72.7%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 85.8% เข็มที่2 82.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.4% เข็มที่2 70.7%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 79.3% เข็มที่2 66% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94.2% เข็มที่2 85.3%
5. เชียงใหม่ เข็มที่1 79.1% เข็มที่2 60.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 85.3% เข็มที่2 67.7%
6. ระนอง เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 62% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.5% เข็มที่2 71.5%
7. พังงา เข็มที่1 71.9% เข็มที่2 64.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74% เข็มที่2 71%
8. ระยอง เข็มที่1 69.5% เข็มที่2 58.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.1% เข็มที่2 60.8%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 1 68.6% เข็มที่2 48.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78% เข็มที่2 67.1%
10. กระบี่ เข็มที่1 68.3% เข็มที่2 60.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.3% เข็มที่2 71.3%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 65.9% เข็มที่2 56.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70% เข็มที่2 64.1%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 64.6% เข็มที่2 56.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.3% เข็มที่2 60.9%
13. ตราด เข็มที่1 64% เข็มที่2 54.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 61.9%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59.2% เข็มที่2 49.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.2% เข็มที่2 63.4%
15. เลย เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 45.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.5% เข็มที่2 59.9%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54.5% เข็มที่2 45.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.7% เข็มที่2 70.2%
17. หนองคาย เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 44.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 62.4%
รวม เข็มที่1 85.7% เข็มที่2 73.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.8% เข็มที่2 70.1%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 621,393,654โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 224,041,006 โดส (48.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 107,861,131 โดส (68.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 88,989,235 โดส (70.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 75,644,960 โดส (38%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 51,938,646 โดส (78.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,467,388 โดส (83.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,869,175 โดส (28.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,770,158 โดส (50.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 728,626 โดส (90.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.30%
2. ยุโรป 10.44%
3. อเมริกาเหนือ 9.32%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.38%
5. แอฟริกา 2.94%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,430.74 ล้านโดส (173.6% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,169.06 ล้านโดส (85.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 449.96 ล้านโดส (135.5%)
4. บราซิล จำนวน 272.23 ล้านโดส (129.5%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 224.04 ล้านโดส (81.2%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (245.2%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (207.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (205% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (201.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (192.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (191%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (175.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (174.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. จีน (173.6%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)