“อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 88,330,952 โดส และทั่วโลกแล้ว 7,643 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 614.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (114.6%)
➡️(20 พฤศจิกายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 7,643 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 34.2 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 445 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 196 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว”
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 614.9 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (90.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 222.9 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 88,330,952 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.28%
🌏 ในการฉีดวัคซีน จำนวน 7,643 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 88,330,952 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 46,473,004 โดส (70.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 38,834,504 โดส (58.7% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,021,444 โดส (4.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-20 พ.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 88,330,952 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 676,048 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 605,251 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
– เข็มที่ 1 22,367,598 โดส
– เข็มที่ 2 3,546,237 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
– เข็มที่ 1 11,862,179 โดส
– เข็มที่ 2 25,044,815 โดส
– เข็มที่ 3 2,275,331 โดส
วัคซีน Sinopharm
– เข็มที่ 1 7,146,157 โดส
– เข็มที่ 2 6,485,945 โดส
– เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
– เข็มที่ 1 4,972,243 โดส
– เข็มที่ 2 3,736,590 โดส
– เข็มที่ 3 657,759 โดส
วัคซีน Moderna
– เข็มที่ 1 124,827 โดส
– เข็มที่ 2 22,917 โดส
– เข็มที่ 3 88,354 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
– บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.4% เข็มที่2 119.9% เข็มที่3 93.8%
– เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.2% เข็มที่2 60.9% เข็มที่3 18.7%
– อสม เข็มที่1 77.2% เข็มที่2 72.7% เข็มที่3 15.2%
– ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 72.7% เข็มที่1 64.4% เข็มที่3 3.4%
– ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 61.7% เข็มที่2 49.9% เข็มที่3 3.3%
– ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.2% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 0.9%
– หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 18% เข็มที่2 14.1% เข็มที่3 0.2%
– นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 66.2% เข็มที่2 52.6% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 64.5% เข็มที่2 53.9% เข็มที่3 4.2%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 114.6% เข็มที่2 100.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 72%
2. ชลบุรี เข็มที่1 87.4% เข็มที่2 79.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76% เข็มที่2 72.5%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 85.7% เข็มที่2 82% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 73.4% เข็มที่2 70.6%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 79.1% เข็มที่2 65.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94% เข็มที่2 85.2%
5. เชียงใหม่ เข็มที่1 78.5% เข็มที่2 59.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.7% เข็มที่2 67%
6. ระนอง เข็มที่1 73.5% เข็มที่2 61.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.3% เข็มที่2 71.3%
7. พังงา เข็มที่1 71.8% เข็มที่2 64.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74% เข็มที่2 70.9%
8. ระยอง เข็มที่1 69.2% เข็มที่2 58.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66% เข็มที่2 60.7%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 1 68.2% เข็มที่2 47.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.5% เข็มที่2 66.7%
10. กระบี่ เข็มที่1 68.1% เข็มที่2 59.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.1% เข็มที่2 71%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 65.4% เข็มที่2 55.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.6% เข็มที่2 64%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 64.2% เข็มที่2 56.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 65.1% เข็มที่2 60.8%
13. ตราด เข็มที่1 64% เข็มที่2 53.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 61.1%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 59% เข็มที่2 48.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79% เข็มที่2 63.1%
15. เลย เข็มที่1 54.8% เข็มที่2 44.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.3% เข็มที่2 59.2%
16. อุดรธานี เข็มที่1 54.3% เข็มที่2 44.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.5% เข็มที่2 69.5%
17. หนองคาย เข็มที่1 52.1% เข็มที่2 44.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.2% เข็มที่2 62.2%
รวม เข็มที่1 85.4% เข็มที่2 72.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.6% เข็มที่2 69.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 614,909,562 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 222,924,686 โดส (48.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 104,758,269 โดส (67.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 88,330,952 โดส (70.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 74,997,638 โดส (37.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 51,842,386 โดส (78.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 29,444,267 โดส (83.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 25,073,018 โดส (27.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (86%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 6,735,917 โดส (49.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 719,100 โดส (90.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.25%
2. ยุโรป 10.44%
3. อเมริกาเหนือ 9.35%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.38%
5. แอฟริกา 2.95%
6. โอเชียเนีย 0.62%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,409.78 ล้านโดส (172.1% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,158.24 ล้านโดส (84.7%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 444.79 ล้านโดส (138.4%)
4. บราซิล จำนวน 297.96 ล้านโดส (141.8%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 222.92 ล้านโดส (80.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (244.2%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (207.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (204.8% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (201.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (191.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (190.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. อิสราเอล (177.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. กาตาร์ (175.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กัมพูชา (174.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
10. สิงคโปร์ (172.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech, Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุขประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)