กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สนับสนุน SMEs ไทย ภายใต้โครงการ “SMEs Pro-active ระยะที่ 3 (ปี 2562 – 2564)” เข้าร่วมงานแสดงสินค้า SIAL InterFOOD Inspire Food Business ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งมีผู้เข้าชมงานกว่า 6 หมื่นคน และบริษัทเข้าร่วมพันกว่าราย
ปัจจุบัน ตลาดการค้าปลีกอุปโภคบริโภคของอินโดนีเซียเปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ เครื่องดื่มเกลือแร่ (Isotonic/sport drink) ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ข้าวโอ๊ต โยเกิร์ต และขนมขบเคี้ยว (Confectionary) มีทิศทางการบริโภคที่สดใสและขยายตัวได้ดี รวมถึงอำนาจการซื้อที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากการขยายตัวของกลุ่มผู้บริโภครายได้ปานกลางถึงค่อนข้างสูงและกลุ่มคนรุ่นใหม่มีรสนิยมเปิดรับสินค้าใหม่ๆ จากต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 7.7 ต่อปี
นอกจากนี้ อินโดนีเซียมีการพัฒนาช่องทางการค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ ผ่านบริการ application และบริการจัดส่งต่างๆ และ E-Commerce ซึ่งถือเป็น megatrends ของอินโดนีเซีย ไม่แพ้ Thailand 4.0 ของไทย อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดค้าปลีกรูปแบบใหม่ๆ และ E-Commerce ขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นซึ่งผู้ประกอบการไทย อาจต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และพยายามผลิตชนิดของอาหารและเครื่องดื่มให้มีความหลากหลายและตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองมากขึ้น โดยเน้นกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นและวัยทำงานที่ใส่ใจสุขภาพ ในขณะเดียวกัน SMEs ไทยควรจับตามองคู่แข่งการค้าสำคัญของไทย ได้แก่ มาเลเซีย จีน สหรัฐฯ สิงคโปร์และออสเตรเลีย
บริษัท สยามออริจินัลฟู้ด จำกัด (หนึ่งในบริษัทไทยจำนวน 2 รายที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการ SMEs Pro-active) เผยผลิตภัณฑ์มะขามเปียกไทย ได้รับความสนใจดีเยี่ยมจากชาวอินโดนีเซียซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารไทย และชาวอินโดนีเซียทั่วไป ซึ่งผลิตภัณฑ์มะขามเปียกไทยยังสามารถใช้ปรุงอาหารอินโดนีเซียได้เช่นกัน (รสชาติเฉพาะตัวและแตกต่างจากมะขามเปียกของอินโดนีเซีย) นอกจากผลสำเร็จในการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ บริษัทฯ ยังแสดงความพึงพอใจการให้บริการของโครงการ SMEs Pro-active ที่สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านระบบออนไลน์ และติดตามรายละเอียดการอนุมัติได้อย่างสะดวกสบาย
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต) จาการ์ตา ชี้งานแสดงสินค้าดังกล่าวมีศักยภาพและ ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการด้านอาหารของไทย ซึ่งรวบรวมสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากหลายประเทศอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าออร์แกนิก/ สุขภาพ/ ฮาลาล/ ผลิตภัณฑ์การเกษตร/ อาหารสดและ แช่แข็ง/ และเครื่องดื่ม ซึ่งครอบคลุมไปถึงเทคโนโลยีการผลิตและเครื่องมือการผลิต เรียกได้ว่าเบ็ดเสร็จในงานเดียว ทั้งในหมวดบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverages) หมวดเบเกอรี่และขนมหวาน (Bakery & Confectionery) และหมวดอาหารและการบริการด้านโรงแรม (Food & Hospitality) ซึ่งที่ผ่านมา สินค้าอุปโภคบริโภคของไทยไม่ว่าจะเป็นสิ่งปรุงรสอาหาร ขนมขบเคี้ยว ผัก-ผลไม้กระป๋องและแปรรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ต่างมีศักยภาพในการเจาะตลาดอินโดนีเซีย
SMEs Pro-active สนับสนุนอะไร ? โครงการของเราสนับสนุนและสานฝัน SMEs ไทยที่มีความพร้อมและอยากส่งออกให้สามารถก้าวสู่ตลาดโลกและสามารถแข่งขันได้อย่างเข้มแข็งในตลาดและสินค้าที่ผู้ประกอบการต้องการ โดยเราให้วงเงินสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาทต่อครั้ง จำนวน 6 ครั้งตลอดระยะ สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าพื้นที่ ค่าคูหา (คูหามุมเราก็ให้) ค่าประกันภัยในงาน ค่าตกแต่ง ค่าไฟฟ้า ค่าดูแลสิ่งแวดล้อม ค่าประชาสัมพันธ์และค่าธรรมเนียม (AUMA fee) ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ (Overseas Trade Fair) ทั้งนี้ ยังไม่เคยส่งออก ! ก็เข้าร่วมโครงการฯ ได้ แต่ต้องฝึกฝนวิทยายุทธ/ลับคมอีกสักนิด โดยต้องผ่านการอบรมหลักสูตรที่รับรองจากสถาบัน NEA และลองตลาดจริงผ่านการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมด้านการค้าระหว่างประเทศที่กรม DITP จัด อย่างน้อย 1 ครั้ง (งาน Fair ในประเทศ/ต่างประเทศก็ได้) หากผู้ประกอบการสนใจสามารถศึกษาข้อมูลและหลักเกณฑ์โครงการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์โครงการ https://smesproactive.ditp.go.th/ หรือโทรสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-507-7783/7786
*************************
สำนักยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ