กระทรวงสาธารณสุข ขอความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วนและนายจ้าง สำรวจและนำแรงงานต่างด้าวทั้งที่ได้รับอนุญาตแล้วและไม่ได้รับอนุญาต นัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ได้ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนทุกแห่ง เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบคลุม ลดการแพร่ระบาด และสามารถใช้ชีวิตอยู่กับโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ถึงปัจจุบันฉีดไปแล้ว 84,467,371 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 45,204,553 คน คิดเป็น 62.8% ของประชากร และจะพยายามติดตามผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมารับการฉีดให้มากที่สุด โดยขยายการให้วัคซีนไปถึงกลุ่มแรงงานต่างด้าวทั้งที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องและไม่ได้ขึ้นทะเบียน ได้แก่ แรงงานต่างด้าวภาคประมงและคนประจำเรือไทยในจังหวัดชายทะเล 21 จังหวัด, แรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ/บ้าน, แรงงานต่างด้าวตามเขตชายแดน รวมถึงกลุ่มที่หนีภัยสู้รบในศูนย์พักพิง จ.ราชบุรี กาญจนบุรี แม่ฮ่องสอนและตาก ตลอดจนกลุ่มอื่นๆ ที่ไม่ใช่สัญชาติไทยทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มที่อยู่ในประเทศ ช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้ทุกคนในประเทศสามารถใช้ชีวิตอยู่กับโรคโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย
นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร จะร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละกลุ่มเป้าหมาย สำรวจและจัดทำทะเบียนรายชื่อส่งให้หน่วยบริการสาธารณสุขนัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งอาจมีการจัดบริการเคลื่อนที่ในบางพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เพื่อให้เกิดความครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยจะใช้สูตรไข้วซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้า ให้เกิดภูมิคุ้มกันในระยะเวลาที่รวดเร็ว พร้อมทั้งลงข้อมูลการฉีดวัคซีนในระบบ MOPH IC ส่วนผู้ที่ไม่มีเลขหมายประจำตัว จะใช้วิธีสร้างฐานข้อมูลตัวแปร (Generate Code) เพื่อให้บันทึกข้อมูลและออกเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนได้ด้วย ซึ่งวัคซีนขณะนี้มีเพียงพอ ไม่กระทบกับการให้บริการประชาชนทั่วไป ดังนั้น ขอความร่วมมือให้นายจ้างนำแรงงานต่างด้าวในปกครองที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ลงทะเบียนเพื่อรับการฉีดวัคซีนได้ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีนในพื้นที่