โฆษกกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ชี้ข้อควรรู้เรื่องการใช้บริการนวดไทยของหญิงตั้งครรภ์เน้นเลือกร้านนวดแผนไทยที่ได้มาตรฐานตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ต้องได้รับการวินิจฉัย จากแพทย์แผนไทยก่อนรับบริการ
นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกในฐานะโฆษกกรม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จากกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ในเพจและเว็บไซต์ต่าง ๆ เกี่ยวกับกรณี หญิงอายุครรภ์ 6 เดือนเข้ารับบริการนวดเท้าในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผลให้ทารกในครรภ์เสียชีวิตและอาการโคม่า โดยญาติระบุว่ามีสาเหตุเกิดจากการนวดแผนโบราณนั้น สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้แสดงความเป็นห่วงและขอแสดงความเสียใจกับผู้ป่วยและ ญาติด้วยโดยในเบื้องต้นได้มอบหมายให้ผู้นิเทศงานเขตตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 1 ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจราชการ ในจังหวัดเชียงใหม่ ประสานกับหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์โดยเฉพาะองค์ความรู้ทางวิชาการด้านการนวดไทย อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นขอเรียนว่าจากกรณีนี้ยังไม่มีความชัดเจนและรายละเอียดเชิงลึกของข้อมูลว่าเกิดจากการนวดจริงหรือไม่
จึงอยากให้ข้อมูลกับสตรีมีครรภ์ทุกท่านเกี่ยวกับการเข้าใช้บริการนวดว่า ไตรมาสแรก (1-3 เดือน) ควรละเว้นการนวด ข้อควรระวังเกี่ยวกับภาวะแท้งบุตรจากพฤติกรรมตัวเอง เช่น ได้รับการกระแทกรุนแรง หกล้ม หรือรับประทานยาต้องห้าม เป็นต้น ส่วนสิ่งกระตุ้นจากภายนอกก็มีมากเช่นกันไม่ใช่จากการนวดเพียงอย่างเดียว ช่วงไตรมาส 2 (3-6 เดือน) นวดได้ เพื่อการผ่อนคลาย นวดคลึงเบา ๆ ให้หญิงมีครรภ์ที่นอนตะแคงมีหมอนรองเข่าและท้องอยู่ในท่าที่สบาย หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณท้อง และอุ้งเชิงกราน ห้ามนวดหนักและนวดแบบกดจุด สำหรับช่วงไตรมาส 3 (7เดือนขึ้นไป) ไม่ควรนวด ยกเว้นในช่วงใกล้จะคลอดสามารถนวดกล่อมท้องได้ เมื่อเด็กเริ่มจะ กลับหัว โดยหมอผดุงครรภ์ไทยที่มีความชำนาญ เพื่อให้เด็กในครรภ์อยู่ในท่าที่เหมาะสม และช่วยให้คลอดง่าย
สำหรับข้อห้ามและข้อควรระวังสำหรับผู้รับบริการนวดทั่วไป ข้อห้ามได้แก่ มีไข้เกิน 38.5 องศาเซลเซียล บริเวณผิวหนังมีอาการอักเสบ บวม แดง ร้อน มีภาวะกระดูกแตกหัก ปริร้าว หรือมีภาวะผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุแล้วยังไม่หายดี แผลเปิด หากมีอาการดังกล่าวเหล่านี้ก็ไม่ควรรับบริการนวดโดยเด็ดขาดเพราะจะเป็นอันตรายต่อตัวท่านเอง
ดังนั้น การตั้งครรภ์เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการนวด ขอให้เลือกใช้บริการจากคลินิกแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้การนวดไทยเพื่อบำบัดรักษาโรค แนะนำให้ใช้บริการกับคลินิกที่ได้รับอนุญาตจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด กระทรวงสาธารณสุข มีเลขที่ใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของผู้ให้บริการระบุชัดเจน หรือสถานพยาบาลของภาครัฐและภาคเอกชนที่เปิดบริการโดยมี แพทย์แผนไทยหรือผู้ช่วยแพทย์แผนไทยดูแล
******** 8 กุมภาพันธ์ 2562 ***********